ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดแบบผสม หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการคาดการณ์เรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
บทสรุป
กระแสเงินในวันที่ 13 ส.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้น EM 3) มีแรงซื้อโลหะมีค่า 4) มีเงินไหลเข้าหุ้นขนาดเล็ก 5) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีที่จำกัด แต่เห็นแรงขายในกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ 6) เห็นแรงขายกลุ่มการเงิน 7) มีแรงขายในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
AMAT เผยงบดี แต่หุ้นลง 13% หลังคาดการณ์ 4Q25 ต่ำกว่าคาดผลจากอุปสงค์จากจีนลดลง, มาตรการควบคุมการส่งออก และความไม่แน่นอนจากภาษี ขณะที่เรามองว่าหุ้นตอบสนองเชิงลบมากเกินผลจากความคาดหวังสูงและมองว่าหากหุ้นลงมาที่ 160-170$ เป็นจังหวะซื้อเก็งกำไรเพื่อคาดหวังการรีบาวน์หลังสถานการณ์ภาษีมีความชัดเจนมากขึ้น
Intel +7% หลังรัฐฯสหรัฐฯ พิจารณาเข้าถือหุ้นในบริษัทเพื่อช่วยเหลือในโครงการโรงงานผลิตชิปมูลค่ากว่า $20bn ในรัฐโอไฮโอ โดยเราประเมินว่าหากประเด็นนี้เป็นจริง จะส่งผลดีกับ INTC หลังความเสี่ยงทางการเงินน้อยลง อย่างไรก็ดีมองการพัฒนาเทคฯยังยากที่จะตามคู่แข่งอย่าง TSM ทัน ซึ่งเรายังชอบกลุ่มเซมิฯ AI อย่าง TSM AMD NVDA มากกว่า
Tapestry รายงานงบ 2Q25 รายได้และกำไรดีกว่าคาด หนุนโดยการฟื้นตัวในจีนแรงถึง 18% YoY อย่างไรก็ดี บริษัทให้แนวโน้มกำไรทั้งปีต่ำกว่าคาด จากประเด็นภาษีนำเข้า รวมไปถึงการยกเลิกกฎ De Minimis ทั้งนี้ เรามองว่าการฟื้นตัวของสินค้าฟุ่มเฟือยในจีนเป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มหรูหรา สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ เราแนะนำเก็งกำไรบน LVMH
Lenovo และ Foxconn รายงานผลประกอบการดีกว่าคาดทั้งคู่ โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการ AI ที่สูง ด้านธุรกิจ AI Server ของ Lenovo เติบโต 150% จากความต้องการในตลาดจีน Foxconn คาดรายได้จาก AI Server จะโตกว่า 170% เรายังคงเห็นอุปสงค์ AI อยู่ในระยะข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ เรามองว่าทั้ง Lenovo และ Foxconn สามารถลงทุนได้
JD.com รายได้โตกว่า 20% YoY หนุนโดย JD Retail กำไรสูงกว่าคาดจากทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ธุรกิจใหม่ขาดทุนหนักกดดันมาร์จิ้น คาดแรงกดดันต่อกำไรจะต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2025 แนะชะลอการลงทุนจนการแข่งขันใน Food Delivery ชัดเจนขึ้น
NetEase 2Q25 รายได้และ EPS ต่ำกว่าคาด แม้เกมหลักเดิมยังทำผลงานดีแต่ Pipeline เกมใหม่ใน 3-6 เดือนข้างหน้าบาง ทำให้การเติบโตระยะสั้นจำกัด คาดอาจถูกปรับลดคาดการณ์ จึงแนะมอง Tencent ที่มีศักยภาพเติบโตชัดเจนกว่า
