คาด SET แกว่งลง แต่มีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ หลังลงมาใกล้แนวรับสำคัญ 1185/1180 อย่างไรก็ดี หากหลุดต่ำกว่ามีโอกาสปรับลงได้ต่อเนื่อง และคาดว่าการฟื้นตัวของตลาดยังจำกัดอยู่ที่แนวต้าน 1205/1215 เช่นเดียวกับวันก่อน ระยะสั้นเย็นวันนี้ติดตามการประชุมบอร์ดนโยบาย ศก. เพื่อรักษาการเติบโต GDP ไม่น้อยกว่า 2% ส่วนระยะกลางมีความเสี่ยงเพิ่ม หลังจากสหรัฐฯ จะประกาศภาษีนำเข้าใหม่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เจรจาทวิภาคีในอีก 2–3 สัปดาห์
แกว่งทางลง
ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์เตรียมให้สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรเองแบบรายประเทศฝ่ายเดียว โดยไม่เจรจาแบบทวิภาคี เนื่องจากมีกว่า 150 ประเทศ พร้อมส่งหนังสือแจ้งคู่ค้าเพื่อบังคับใช้ในอีก 2–3 สัปดาห์
• วันนี้ปัจจัยในประเทศติดตาม GDP 1Q68 และการประชุมบอร์ดนโยบาย ศก. ใช้งบกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.5 แสนลบ. รวมถึงอาจพิจารณายกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 และมีมาตรการอื่น เพื่อรักษาเป้าการเติบโต GDP ไม่ต่ำกว่า 2%
• รมว.คลังกล่าวในงาน Thailand’s Capital Market Forum ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยเปราะบาง กดดันหุ้นลงต่อเนื่อง รัฐเร่งดึง FDI–เปิดทาง IPO ต่างชาติ หวังฟื้นเชื่อมั่นหนุน SET
• Moody’s ปรับลดเครดิตสหรัฐฯ เหลือ Aa1 จาก Aaa จาก หนี้-ขาดดุล ความเสี่ยงการคลังสูง เป็นความเสี่ยงกดดันต้นทุนทางการเงินของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและดอลลาร์อ่อนค่า
• จีน–EU ระงับนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิลชั่วคราวหลังพบไข้หวัดนก HPAI โดยจีนสั่งแบน 60 วัน ประเทศอื่นจำกัดเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มีโอกาสหนุนหุ้นส่งออกไก่ของไทย CPF GFPT
• กระทรวงคลังสหรัฐฯ รายงานจีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลงมาอยู่อันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร
• ติดตามประธานเฟดสาขาหลายท่านจะกล่าวสุนทรพจน์คืนนี้
• กรมธุรกิจพลังงานรายงานการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไทย 3M68 เพิ่ม 1.3%YoY จากดีมานด์น้ำมันเครื่องบิน +15.1% แต่เบนซิน–ดีเซลหดเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวรอหาปัจจัยหนุนใหม่และความคืบหน้าการเจรจากการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังดัชนีได้ปรับตัวขึ้นไปตอบรับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง จนทำให้ SET ปรับขึ้นมายืนเหนือ 1200 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า 3% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคก่อนเกิดเหตุการณ์ ปธน. ทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศคู่ค้าแล้ว อย่างไรก็ดีหากดัชนีปรับลงหรือพักตัวลงมาที่ระดับ 1155/1120-1100 มองจะเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว หลังประเมินว่าสถานการณ์สงครามการค้าโลกที่เลวร้ายสุดได้ผ่านไปแล้วในแง่ของระดับภาษีที่สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการประกาศข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสพักตัวเพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่และติดตามความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังก่อนหน้านี้ดัชนีได้ปรับขึ้นตอบรับประเด็นบวกระหว่างสหรัฐฯ และจีนไปแล้ว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE BTG CPF CPALL
2. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ พบหุ้นน่าสนใจ SET50 : ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG AP
3. หุ้น SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป คาดให้ Div. Yield 5% ขึ้นไป และเราแนะนำ Outperform เลือก PTT KTB BBL HMPRO
4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการแนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับ -2SD ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะนำ GULF MTC CBG AMATA BJC
Daily top picks
CPF : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากจีน–EU ระงับนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิล หนุนส่งออกไก่ไทยดีขึ้น ขณะที่แนวโน้ม 2Q68 คาดยังได้ประโยชน์จากราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวดีขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงการจะมีกำไรส่วนเพิ่มจากการถือหุ้นเพิ่ม 24% ใน CPP HK ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกินหุ้นละ 27.00 บาท
TRUE : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากมี Downside จำกัด จากสหรัฐฯ ถูกลดอันดับเครดิต และภาษีการค้าสหรัฐฯ ขณะที่โมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่ง โดย 1Q68 เป็นไตรมาสแรกที่รายงานกำไรสุทธิเป็นบวกครั้งแรก และ 2Q68 กำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมี Upside จากประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ
Ready to move down
The SET is expected to fall but may rebound at support after falling close to 1185/1180. However, a fall below that is likely to mean it will continue down; recovery is limited at resistance of 1205/1215, the same as Friday. Watch actions by the economic stimulus board today; it is expected to keep its GDP forecast higher than 2%, while in the medium term there is higher risk as the US will announce a one-sided new tariff rate
Today’s highlights
• The Fed chair signaled that long-term interest rates are likely to rise due to economic changes, with monetary policy currently in a transition phase, making interest rate cuts more difficult. This aligns with INVX's outlook.
• US April PPI rose 2.4% YoY, below market expectations, pushing 10-year US treasury yields down to 4.43% overnight and weakening the dollar. This is sentimentally positive for yield plays, including power plants, REITs and finance companies.
• Trump said the US is close to reaching a nuclear deal with Iran, exchanging lifting of sanctions for concessions. This would allow Iran to export oil, raising market concerns about increased oil supply and putting downward pressure on oil prices.
• The Minister of Finance expects the economy to stall for at least two years due to US tariffs. It has directed the seven state banks to reduce profit targets to help lower interest rates, along with a Bt100bn soft loan program. KTB is not among the seven banks, but the psychological impact may hit the commercial banking sector.
• An Economic Stimulus Board meeting is scheduled for May 19 to discuss countermeasures against US retaliatory tariffs, review the FY2026 budget, and Digital Wallet phase 3.
• PBOC reports April new loans at 280bn yuan, significantly below expectations of 700bn yuan, as trade war pressures dampen demand. China's economic outlook remains cautious, including for related stocks.
• The Thai Chamber of Commerce University reports the Consumer Confidence Index for April fell to 55.4, the lowest in 7 months, pressured by trade war concerns, slow overall economic recovery, and high cost of living.
Strategy today
In the short term the SET is expected to rest and wait for a new catalyst, such as Thailand and US trade negotiations, after already rising to factor in the talks between the US and China, which eased tension to some extent, standing above 1200 which is 3% higher than before Trump’s announcement of reciprocal tariffs. However, if the index falls to 1155/1120-1100, it would open the door to accumulate buy for long-term investment as we believe the worst of trade war has come to pass in terms of the highest tariff rates, while negotiations are currently underway. Our investment strategy remains "Selective Buy".
Trading today
The SET is expected to rest to wait for a new catalyst and progress on trade negotiations between Thailand and the US, after rising to incorporate the good news of US and China talks. Our investment strategy is for "selective buy" in 3 main themes and 1 trading theme with specific positive factors:
1. Earnings plays with 2Q25 profit expected to grow strongly, and core profit growth both YoY and QoQ – ADVANC, TRUE, BTG, CPF and CPALL.
2. Stocks expected to be targets of ThaiESGX: 1) 2025 profit expected to grow, 2) strong financial position and 3) steady dividends - on SET50 are ADVANC, BDMS, CPALL and PTT and on SET100 are BCH, BTG and AP.
3. SET50 stocks with SETESG Rating higher than A, expecting dividend yield of higher than 5% and on which we recommend “Outperform” – PTT, KTB, BBL and HMPRO.
4. Trading idea: For high-risk-takers, we recommend speculating on undervalued stocks that are currently trading at 2025F PER and PBV below -2SD, with profit expected to grow in 2025 and a strong balance sheet – GULF, MTC, CBG, AMATA and BJC.
Daily top picks
CPF: Price has a short-term catalyst in the temporary pause in chicken imports from Brazil by China and EU, positive for Thailand’s chicken exports. 2Q25 profit is expected to benefit from higher pork price and lower feed cost, and it will also record higher contribution from CPP HK after raising its holding. Recommend to buy for trading at not higher than Bt27.00/share.
TRUE: The company has limited downside from a downgrade in the US’s credit rating and US tariffs, which are likely to be price catalysts. Profit momentum is still strong. 1Q25 is the first quarter with positive net profit, and 2Q25 profit is expected to continue growing with upside from the upcoming spectrum auction which is not yet included into our forecast.
Download PDF Click > Daily250519_E.pdf
