คาดตลาดไซด์เวย์/รีบาวด์ วันก่อน DELTA กลับมากดดันตลาด ขณะที่ นลท. ต่างชาติขายสุทธิสูง ระยะสั้นตลาดติดตามผลประกอบการ 3Q68 โค้งสุดท้ายสัปดาห์นี้ การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทำสถิติใหม่เป็นวันที่ 40 แต่เริ่มมีโอกาสการเจรจา ส่วนความกังวลเรื่อง Valuation หุ้น AI ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวังในระยะกลาง เทคนิคดัชนีลงมาใกล้แนวรับหลักที่ไม่ควรลงหลุดต่ำกว่า 1300-1298 การลงหลุดระวังทดสอบ 1285 การขึ้นมีแนวต้าน 1315/1320 ยืนได้กลับมาขึ้น
ประเด็นสำคัญ
• กระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่าจีนได้ระงับมาตรการห้ามส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use Items) ทั้งเชิงพาณิชย์และทางทหาร เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับแกลเลียม, เจอร์เมเนียม, พลวง และวัสดุซูเปอร์ฮาร์ด ไปยังสหรัฐฯ ถึงวันที่ 27 พ.ย. 2569 มองเป็นอีกสัญญาณบวกต่อการผ่อนคลายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
• ธปท. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และ Non-bank สามารถร่วมลงทุนกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้เป็นการชั่วคราว (JV AMC) โดยจะให้ระยะเวลา 2 ปีในการยื่นขอจัดตั้งและ 15 ปีในการดำเนินกิจการ และต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่รับโอน
• นายกฯ สั่ง สอน. ชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขึ้น 3 บาท/กิโลกรัม สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2568/69 ให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่ม ราคาน้ำตาลทรายขาวอยู่ที่ 21-22บาท/กิโลกรัมตามเดิม
• CPI จีนใน ต.ค. 2568 ขยายตัว 0.2%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้และขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ มิ.ย. 2568 ส่วน PPI หดตัว 2.1%YoY หดตัวต่อกว่าที่ตลาดคาดไว้ เป็นการหดตัวต่อเนื่อง 37 เดือน
• มูลค่าส่งออกจีนใน ต.ค. 2568 ลดลง 1.1%YoY สวนทางกับที่ตลาดคาดจะขยายตัว โดยเป็นการหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี กดดันจากการส่งออกสู่สหรัฐฯ ที่หดตัวต่อเนื่อง และแรงหนุนของ Front Load Demand ที่เริ่มหมดลง ส่วนมูลค่านำเข้าขยายตัว 1.0%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด
• ม. มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน พ.ย. 2568 ลดลงสู่ 50.3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้และต่ำที่สุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 2565 กดดันจากความกังวลต่อการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1285-1345 จุด หลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector ที่คาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัว รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล แนะนำติดตามการปรับตัวลงของดัชนีมาที่กรอบล่าง 1285 หากหลุดต่ำกว่าจะมีความเสี่ยงของการลงรอบใหม่ในทางเทคนิค ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) การปิดหน่วยงานของราชการสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อทำระยะเวลาที่ยาวนานสุดครั้งใหม่ 2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญทั้งภาคแรงงานและเงินเฟ้อ หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิดได้ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 3) PMI ภาคการผลิตและยอดค้าปลีก ต.ค. ของจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าที่จะมีผลต่อจิตวิทยาและบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบเนื่องจากเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q68 “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 4Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ BCPG BEM BGRIM BJC MTC PTT
2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
3. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 เติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY แนะนำ BGRIM GFPT MTC CPALL BEM และ 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย
Daily Top Picks
BAM: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาล บริษัทตั้งเป้าเพิ่ม JV AMC เพิ่ม 2 แห่ง คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเร่งตัวเพิ่มขึ้น QoQ ใน 4Q68 และคาดว่าจะเพิ่ม DPS จาก 0.35 บาท ในปี 2567 เป็น 0.50 บาท (อัตราการจ่ายเงินปันผล 72%) ในปี 2568 เป้าหมายระยะสั้นที่ 7.20 บาท
BJC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากอานิสงส์นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคและการท่องเที่ยว คาดกำไรปี 2568 จะเติบโต 7%YoY และเติบโตต่อ 10%YoY ในปี 2569 อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง ซื้อขายที่ PER 2568F ที่ 16.7 เท่า ต่ำกว่า -2SD เป้าหมายระยะสั้นที่ 18.70 บาท
Rebound, hang on above 1300
The SET is expected to rebound. On Friday, DELTA pressured the index, while foreign investors had high net sells. Keep an eye on 3Q25 earnings announcements as this is the final week for reporting, and the 40th day of the US government shutdown, though there are finally signs of talks. Concern over an AI valuation bubble still needs to be monitored in the medium term. Technically, the index has main supports at 1300/1298 and resistances at 1315/1320.
Today’s highlights
• China's Ministry of Commerce announced the suspension of export controls on dual-use items (both commercial and military applications) to the US through November 27, 2025, including products related to gallium, germanium, antimony, and superhard materials. This is viewed as another positive sign of easing US-China trade tensions.
• The BoT has temporarily authorized commercial banks, financial institutions and non-banks to jointly invest with asset management companies (JV AMC), giving them two years to apply to set up an AMC and 15 years to operate. They will be required to assist those whose NPLs are transferred.
• The PM ordered the Ministry of Commerce to postpone the planned Bt3/kg increase in sugar mill-gate prices for the 2025/26 production season to align with rising production costs; white sugar prices remain at Bt21-22/kg.
• China's CPI in October expanded 0.2%YoY, exceeding market expectations and the first expansion since June 2025; PPI contracted 2.1%YoY, declining more than expected and extending the contraction to 37 months.
• China's export value in October fell 1.1%YoY, opposite with market expectations of growth and the first contraction in over two years, pressured by continued declines in exports to the US and fading front-load demand effects, while imports grew 1.0%YoY, below market expectations.
• The University of Michigan reported a decline in the US consumer confidence index in November to 50.3, below market expectations and the lowest since June 2022, pressured by concerns over potential US government shutdowns.
Strategy today
In the short term, the SET is expected to move between 1285-1345 as it enters the final week of real sector 3Q25 earnings announcements, which are expected to show growth, and expectations of new government stimulus. Follow the index movement near a lower bound at 1285. If it breaks down below this, it is at risk of entering a new downward cycle. Externally, watch: 1) the prolonged US government shutdown; 2) US economic figures, labor market and inflation, if the shutdown ends, which will affect the Fed’s interest rate movement; and 3) China’s manufacturing PMI and retail sales in Oct, which are likely to show only slow recovery, affecting sentiment in Asia’s capital markets. Our investment strategy is "Selective Buy".
Trading today
In the short term the SET is expected to be range-bound as we enter the final week of 3Q25 earnings announcements. Our investment strategy is "selective buy" in two main and two trading themes:
1. Earnings plays, whose 4Q25 earnings are expected to grow YoY and QoQ, and on which we recommend Outperform with price upside – BCPG, BEM, BGRIM, BJC, MTC, PTT.
2. Stocks that benefit from the interest rate downcycle as we expect the MPC to cut interest rate once more this year and twice next year: companies that benefit from lower financial cost as they carry a high proportion of floating-rate debt - CENTEL, GPSC, TRUE, and those whose operating costs are reduced and/or that benefit from higher purchasing power – AP, and MTC, and REITs – DIF, FTREIT and LHHOTEL.
3. Trading idea: For high-risk-takers who want to speculate: 1) stocks whose 3Q25 earnings are expected to beat consensus – BGRIM, GFPT, MTC, CPALL and BEM; and 2) stocks which benefit from accelerating government stimulus – Tourism: CENTEL and ERW, and Finance: BAM and MTC.
Daily Top Picks
BAM: Short-term catalyst from the governments’ solving debt measure. The company aims to establish two JV AMCs. Profit is expected to accelerate, growing QoQ in 4Q25, and DPS is expected to be Bt0.50 (dividend payout ratio of 72%) in 2025 from Bt0.35 in 2024. Short-term TP is Bt7.20.
BJC: Price has a catalyst from the government’s consumption and tourism stimulus measures. Profit in 2025 is expected to grow by 7%YoY and continue growing by 10% through 2026. The valuation is attractive with PER2026F of 16.7x, below -2S.D. Short-term TP is Bt18.70.
Download EN version click >> Daily251110_E.pdf
