สรุปสาระสำคัญ
เงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
สรุประเด็นเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. หดตัว -0.79%YoY นำโดยหมวดขนส่งและการสื่อสาร และ หมวดอาหารสดและพลังงาน
- ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือน ก.ค. 2025 ลดลง -0.79% YoY หดตัวมากกว่าที่เราคาดที่ -0.4% และมากกว่าตลาดคาดที่ -0.7% โดยหดตัวมากกว่าเดือนก่อนที่ -0.7% โดยปัจจัยฉุดเงินเฟ้อหลัก ได้แก่ ราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า) ที่ลดลงจากราคาน้ำมันโลกและมาตรการลดค่า Ft, ราคาผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมากตามฤดูกาลและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
- โดยเงินเฟ้อในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์พลิกหดตัว -0.08% (vs. 0.84% เดือนก่อน) หมวดอาหารสดและพลังงาน หดตัว -4.11% (vs. -3.82% เดือนก่อน) จากกลุ่มไข่ไก่ และผักผลไม้สด ด้านหมวดการขนส่งและการสื่อสารหดตัว -2.73% (vs. -3.87% เดือนก่อน) จากราคาน้ำมันที่ลดลง
- ด้านราคาผู้บริโภคพื้นฐานชะลอตัวลงเป็น 0.81% (vs. 0.84% เดือนก่อน) ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สะท้อนโมเมนตัมฝั่งอุปสงค์ที่ส่งสัญญาณอ่อนแอ
- เรามองว่าเงินเฟ้อไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มยังคงทรงตัวอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท. จาก (1) Momentum ราคาพลังงานในตลาดโลก ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำหรือลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวลง และส่งผลให้ราคาค้าปลีกน้ำมันในประเทศชะลอตัว (2) ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายหมวดยังถูกกดดันจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการแข่งขันด้านราคาที่สูง (3) ต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาสินค้ากึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่ราคาส่งออกยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรึงราคาสินค้าได้ต่อเนื่องทั้งนี้ (4) ราคาผักและผลไม้ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมามากในปีนี้ กดดันเงินเฟ้อในหมวดอาหารสด
- เรามองว่าเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2025 จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.25% YoY โดยมีความเสี่ยงโน้มไปในด้านต่ำ ใกล้เคียงค่ากลางของกรอบคาดการณ์กระทรวงพาณิชย์ (0.0–1.0%) และ ประมาณการของสภาพัฒน์ที่ 0.0-0.5%
- ทำให้ นโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ เราจึงคงมุมมองว่า ธปท. ควรปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งภายในปี 2025 รวม 0.50% นำดอกเบี้ยลงสู่ ระดับ 1.25% ต่อปี
- ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือน ก.ค. 2025 ลดลง -0.79% YoY หดตัวมากกว่าที่เราคาดที่ -0.4% และมากกว่าตลาดคาดที่ -0.7% โดยหดตัวมากกว่าเดือนก่อนที่ -0.7% โดยปัจจัยฉุดเงินเฟ้อหลัก ได้แก่ ราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า) ที่ลดลงจากราคาน้ำมันโลกและมาตรการลดค่า Ft, ราคาผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ ที่ลดลงจากผลผลิตที่ออกมากตามฤดูกาลและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
- คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย. จะยังหดตัว โดยมีปัจจัยฉุดเงินเฟ้อ: 1) ราคาน้ำมันดิบดูไบยังทรงตัวในระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้า จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างช้า และแรงกดดันด้านอุปทานยังไม่รุนแรง แม้จะมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นในรัสเซียภาครัฐยังคงดำเนิน 2) มาตรการลดค่าครองชีพ โดยปรับลดค่า Ft งวด ก.ย.–ธ.ค. เหลือ 15.72 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาท/หน่วย 3) ราคาผักสดและผลไม้สดยังอยู่ในระดับต่ำจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาด 4) การแข่งขันด้านราคาที่ยังรุนแรงและกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า
- ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ: 1) ราคาสินค้าเกษตรและวัตถุดิบอาหารบางรายการยังมีแนวโน้มปรับขึ้น เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช 2) น้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกอาจมีความผันผวนจากสถานการณ์ที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานของตลาดโลก