Keyword
PDF Available  
Special Report - Thai Stocks

Energy at play - 1 ก.ค. 2568 BCPG และ GULF ได้ผลบวกจากคลื่นความร้อน

1 Jul 25 8:05 AM
สรุปสาระสำคัญ

Key Highlights

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา Brent -4.3%WoW, GRM -11.4%, ถ่านหิน (NEX) -0.4%, ราคาก๊าซ US -3.2%
  • กลุ่ม O&G -0.8%WoW, โรงกลั่น +0.8%, ปิโตรเคมี +4.9%, ไฟฟ้า +4.8%, ถ่านหิน -5%
  • สหรัฐฯ และยุโรปเผชิญคลื่นความร้อนหนุนความต้องการไฟฟ้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่อุปสงค์พุ่งสูง ทำให้ราคาก๊าซฯ สหรัฐฯ และ LNG มี Downside จำกัด BCPG ได้ประโยชน์จาก Capacity Payment ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ขณะที่อุปทานไฟฟ้าในระยะยาวมีแนวโน้มตึงตัว ด้าน SPP ยังมีความเสี่ยงกดดันจากการกำหนดค่าไฟฟ้างวดถัดไป สะสม GULF ซึ่งได้รับผลกระทบจำกัด
  • อิสราเอล-อิหร่านหยุดยิงลด War Premium ราคาน้ำมันและสะท้อนปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น อุปทานมีแนวโน้มเติบโตเร็วกว่าอุปสงค์ มองบวกกลุ่มโรงกลั่นที่สต็อกอยู่ในระดับต่ำ ระยะสั้นมีอุปสงค์หนุนในช่วงวันประกาศอิสรภาพ เก็งกำไรระยะสั้น SPRC ส่วนเชิงพื้นฐานทยอยสะสม BCP

สหรัฐฯ-ยุโรป เผชิญคลื่นความร้อนหนุนอุปสงค์ไฟฟ้า  ก๊าซฯ สหรัฐฯ และ LNG Downside จำกัด

 

ฝั่งตะวันออกและ Midwest ของสหรัฐฯ เผชิญกับคลื่นความร้อน (Washington Post) ทำให้ความต้องการไฟฟ้าในสหรัฐฯ พุ่งสูง ราคาไฟฟ้าในเขตตะวันออกเฉียงใต้พุ่งขึ้นเหนือระดับ US$300/MWh ในวันที่ 24 มิ.ย. เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งปี 2024 ที่ US$33.74/MWh (Platts) และในวันเดียวกันกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งฉุกเฉินละเว้นให้ DUK.US สามารถผลิตไฟฟ้าเกินขีดจำกัดการปล่อยมลพิษเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดไฟฟ้าดับ และผู้ให้บริการหลายรายขอความร่วมมือลดการใช้ในช่วงพีค (Reuters) เช่นเดียวกับยุโรปที่เผชิญคลื่นความร้อน ทั้งในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือและตอนใต้ ทำให้ต้องชะลอการเติมก๊าซฯ สำรองเพื่อผลิตไฟฟ้า ซ้ำเติมการเติมก๊าซฯ สำรองที่ชะลอลงจากอุปทานที่ตึงตัวจากการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ในนอร์เวย์ (Argus)

 

มองราคาก๊าซฯ สหรัฐฯ และ LNG มี Downside จำกัดหนุนจากคลื่นความร้อนเมื่อเทียบกับน้ำมันดิบที่อุปทานโลกมีความเสี่ยงจากการปิดช่องแคบ Hormuz (19.3% ของอุปทานโลก) และก๊าซฯ ยุโรปที่มีความอ่อนไหวสูงต่ออุปทานภายนอก (Figure 2) แม้ปริมาณก๊าซฯ สำรองยุโรปยังคงเพิ่มขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 57% (Figure 3) คลื่นความร้อนหนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าซึ่งทำให้ยุโรปต้องการ LNG เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับความต้องการก๊าซฯ สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิต LNG สูงขึ้นตาม มองเป็นบวกต่อโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในระยะยาวอุปทานไฟฟ้าสหรัฐฯ มีแนวโน้มตึงตัวจากกำลังการผลิตใหม่ที่ต่ำกว่ากำลังการผลิตที่มีกำหนดปลดระวาง (Platts) ขณะที่ความต้องการไฟฟ้าในสหรัฐฯ เริ่มจะขยายตัว ขับเคลื่อนโดย Data Center และคาดจะเติบโต 2.6% ในปี 2025F (Figure 4) สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ สะสม BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในสหรัฐฯ สูง (Figure 5) และอยู่ใน Ohio และ Pennsylvania ซึ่งกำลังเผชิญคลื่นความร้อนซึ่งได้ประโยชน์จากส่วนแบ่งกำไรที่เติบโตจากค่า Capacity Payment ที่เพิ่มขึ้น แม้ในระยะสั้นต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะลดลง มองกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ยังมีปัจจัย Overhang กดดันจากการกำหนดค่าไฟฟ้างวด ก.ย. - ธ.ค. 2025 เชิงพื้นฐาน สะสม GULF ที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากการกำหนดค่าไฟฟ้า, มีการกระจายความเสี่ยงเชิงธุรกิจสูง และมีกำลังการผลิตในสหรัฐฯ เช่นกัน  ติดตามสภาพอากาศสหรัฐฯ ที่แปรปรวนในช่วงฤดูร้อนระหว่าง มิ.ย.-ส.ค. และการพิจารณาค่า Ft ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลาย ก.ค. นี้

 

 

อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิง น้ำมันกลับมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน โรงกลั่นยังมีปัจจัยหนุน

 

ความเสี่ยงต่ออุปทานน้ำมันโลกลดลงหลังอิสราเอล-อิหร่านได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงใกล้เคียงระดับช่วงก่อน ”สงคราม 12 วัน” และการเดินเรือผ่านช่องแคบ Hormuz ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยยะฯ ในช่วงที่มีการโจมตีตอบโต้กัน ปธน. ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณให้จีนสามารถกลับมานำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ เพื่อให้อิหร่านสามารถหารายได้จากการขายน้ำมันเพื่อฟื้นฟูประเทศ ทำให้ตลาดน้ำมันผ่อนคลายขึ้น แต่ชี้ว่าการผ่อนคลายครั้งนี้จะยังไม่นำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน (Reuters)

 

มองราคาน้ำมันดิบจะปรับลงเพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น โดยยังคงมองตลาดน้ำมันจะเกินดุลตลอดปี 2025 (Figure 6) จากอุปทานที่เติบโตสูงกว่าอุปสงค์ ประเมินว่า OPEC+ จะคงเร่งการเพิ่มการผลิตน้ำมันใน ก.ค. ขึ้นเป็นสามเท่าสู่ +411kBD คืนจากมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจ 2.2MBD (Reuters) ขณะที่อุปสงค์ยังคงถูกกดดันจากเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ระมัดระวังการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันต้นน้ำจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายพลังงานสหรัฐฯ และสงครามการค้า มองบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นจากแรงกดดันต่อค่าการกลั่นที่ลดลงตามต้นทุนน้ำมันดิบ ขณะที่สต็อกน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ในระดับต่ำ (Figure 7) เชิงกลยุทธ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรระยะสั้น SPRC ที่มีสัดส่วนเบนซินสูงซึ่งได้ประโยชน์จากฤดูขับขี่ของสหรัฐฯ และช่วงวันหยุดยาววันประกาศอิสรภาพ โดยเชิงสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่าสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่วง ก.ค.-ส.ค. (Figure 8) และเชิงพื้นฐาน ทยอยสะสม BCP ซึ่งมีการกระจายความเสี่ยงเชิงธุรกิจสูง ซึ่งรวมถึง BCPG ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 58% ติดตามการตัดสินใจของ OPEC+ เกี่ยวกับแผนกำลังการผลิตใน ส.ค. ที่มีแนวโน้มเพิ่มการผลิตต่อ (Reuters) และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาอาจกระทบการจำหน่ายน้ำมันในภูมิภาค

 

ความเสี่ยง: เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน, สถานการณ์ในตะวันออกกลาง, การเมืองในประเทศ, นโยบายพลังงานของใหม่สหรัฐฯ และของไทย, รัสเซีย-ยูเครน, นโยบายการผลิตของ OPEC+

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5