8 ชาติสมาชิก OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน ต.ค. 2025 ที่ +137kBD เป็นไปตามกระแสข่าวช่วงก่อนที่กลุ่มส่งสัญญาณพิจารณาการเพิ่มการผลิตช่วง 12 เดือนข้างหน้าเพื่อกลับมาตรการลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจ 1.66MBD ที่เดิมมีกำหนดถึงช่วงสิ้นปี 2026 และเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำมันกลับมา (Figure 2, Reuters)
มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และผิดจากที่ตลาดคาดในช่วงก่อนว่าจะหยุดการเพิ่มการผลิตหลังได้กลับมาตรการลดการผลิตแบบสมัครใจชุดแรกครบแล้วและเพิ่มการผลิตตามโควตาของ UAE รวม +2.5MBD ในช่วง เม.ย.-ก.ย. 2025 แนะนำระมัดระวังการลงทุนในอุตฯ น้ำมันขั้นต้นท่ามกลางตลาดน้ำมันที่ยังคงมีแนวโน้มไปสู่ภาวะอุปทานล้นเกินมากขึ้น และการตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อประเทศที่นำเข้าพลังงานรัสเซียยังไม่ชัดเจน แต่มองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมันจากราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มปรับลง และเห็นการฟื้นตัวของค่าการตลาดทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ยรายเดือน (Figure 3) ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยบัญชีน้ำมันมีเงินไหลเข้าเฉลี่ย 163 ลบ./วัน ใน ส.ค. 2025 และเกินดุลราว 2.0 หมื่นลบ. (Figure 4) เชิงกลยุทธ์ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรระยะสั้น PTG ซึ่งมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันสูง และ OR ซึ่งมีการกระจายความเสี่ยงเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจ Lifestyle ที่มีความแข็งแกร่ง และในระยะต่อไปมีปัจจัยหนุนจากความต้องการบริโภคเชื้อเพลิงที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในไตรมาส 4 สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง เชิงพื้นฐาน ทยอยสะสม PRM ที่ดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในอาเซียน และมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากอุปสงค์ในภูมิภาคและการขยายกองเรือใน 2H25 ติดตามการประชุม OPEC นัดถัดไปในวันที่ 5 ต.ค.
บริษัทพลังงานรัสเซีย Gazprom และบริษัทพลังงานรัฐบาลจีน CNPC ได้ลงนามข้อตกลงซื้อขายก๊าซฯ ผ่านท่อ Power of Siberia 2 ปริมาณ 50bcm/ปี (Bloomberg) และลงนามเพิ่มปริมาณซื้อขายก๊าซฯ ผ่านท่อ Power of Siberia ขึ้นเป็น 44bcm/ปีจาก 38bcm ต่อปี และก๊าซฯ ผ่านท่อจากเกาะ Sakhalin ขึ้นเป็น 12bcm/ปี จาก 10bcm ต่อปี (Reuters) อุณหภูมิในยุโรปประเมินว่าจะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยใน ก.ย. 2025 และอาจต่อเนื่องถึงช่วงต้นของฤดูหนาวปีนี้ ขณะที่ความรุนแรงของคลื่นความร้อนในยุโรปเริ่มลดลง (Bloomberg)
ประเมินราคา LNG มีแนวโน้มจะลดลงในระยะต่อไปจาก Sentiment เชิงลบตามการแย่งชิงอุปทาน LNG ในตลาดโลกมีแนวโน้มผ่อนคลายลงจากจีนที่หันไปนำเข้าก๊าซฯ ผ่านท่อจากรัสเซีย และนำเข้า LNG ในสัดส่วนที่ลดลง (Figure 5) โดยแนวโน้มดังกล่าวเริ่มเห็นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2024 หลัง EU เริ่มลดการพึ่งพาก๊าซฯ รัสเซียและเห็นชัดเจนขึ้นในตั้งแต่ ก.พ. 2025 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ-จีนมีการตอบโต้มาตรการภาษีศุลกากรระหว่างกัน โดยรัฐบาลจีนประกาศเก็บภาษีศุลกากร LNG สหรัฐฯ ในอัตรา 15% ทำให้จีนยุติการนำเข้าและ Resell LNG สหรัฐฯ และนำเข้าก๊าซฯ ผ่านท่อจากรัสเซียแทน และยุโรปไม่มีความกังวลอุปทานก๊าซฯ ขาดแคลนจากระดับปริมาณก๊าซฯ สำรองยุโรปที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 79% (Figure 6) และมีแนวโน้มจะแตะ 90% ภายใน ต.ค. นี้ ขณะที่อุปสงค์มีแนวโน้มลดลงตามฤดูกาลหลังคลื่นความร้อนเริ่มลดลงและอุณหภูมิที่คาดจะอบอุ่นกว่าปกติ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง โดยราคาเฉลี่ย JKM ช่วง 3Q25TD ลดลง 7.3%YoY และ 2.9%QoQ (Figure 7) ซึ่งจะกดดันราคา Pool Gas ให้มีแนวโน้มลดลง (Figure 8) และมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงและบาทแข็งค่า เชิงกลยุทธ์ เก็งกำไรระยะสั้น GPSC ได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง หนุน SPP มาร์จิน และมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วนเชิงพื้นฐาน ทยอยสะสม GULF มีศักยภาพการเติบโตและการกระจายความเสี่ยงเชิงธุรกิจสูง และทั้งสองได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง ติดตามสัญญาณย้ำภาวะดอกเบี้ยขาลงในการประชุม FOMC วันที่ 16-17 ก.ย. นี้ และการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากเสร็จสิ้นล่าช้ากว่ากำหนดการอาจหนุนราคาก๊าซฯ และ LNG ในระยะสั้น (OilPrice.com)
ความเสี่ยง: เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน, สถานการณ์ในตะวันออกกลาง, การเมืองในประเทศ, นโยบายพลังงานสหรัฐฯ และไทย, รัสเซีย-ยูเครน, นโยบายการผลิตของ OPEC+