ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

กลยุทธ์การลงทุน – El Nino…ปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญและเฝ้าระวังในปลายปีนี้

blog_list_heading
26 มิ.ย. 2566;
504
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

    ็HOT
    • มุมมองต่อเศรษฐกิจไทย : ปัจจุบันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์สภาพอากาศได้ออกมาเตือนโลกอาจเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง (Super El Nino) ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และก่อให้เกิดความแห้งแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตอนเหนือของออสเตรเลีย โดยคาดมีโอกาสเกิดEl Nino เกินกว่า 90% ในช่วงปลายปี 2023 จนถึงปี 2024 ซึ่งในมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจไทยนั้น หากเกิด El Nino จะกระทบต่อการเพาะปลูกและผลผลิตทางเกษตรของไทย ทำให้เศรษฐกิจภาคเกษตร (Agriculture GDP) หดตัวลงเช่นเดียวกับที่เคยเกิดในปี 2015-17 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการชะลอตัวแรงจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง และอาจทำให้รายได้เกษตรกรปรับลดลงในระดับใกล้เคียงกับช่วงปี 2015-17 ได้
    • มุมมองต่อตลาดหุ้นไทย : ภาพการลงทุนจากภัยแล้งของไทยเป็นความเสี่ยงเชิงลบมากกว่าเชิงบวก เนื่องจากโครงสร้างแรงงานไทยมาจากภาคเกษตรราว 40% ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งจะนำมาซึ่งกำลังซื้อของคนมีรายได้น้อยและต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มลดลงจากเดิมที่ได้รับแรงกดดันจากภาวะหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นอาจจะส่งผลกับราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และอาจจะส่งผลกับภาคการผลิตอย่างกลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งในปี 2023 มองว่าจะยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนเพียงพอ แต่ต้องติดตามปริมาณฝนในช่วง มิ.ย. ถึง ต.ค. นี้ ซึ่งหากมีน้อย คาดว่าจะเห็นผลกระทบชัดเจนในช่วง 1Q24 เป็นต้นไป โดยต้องติดตามนโยบายการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างเป็นรูปธรรมและพัฒนาการของ El Nino ประกอบกับ การขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. เป็นสำคัญ
    • กลยุทธ์การลงทุน : เนื่องจากเรามองปีนี้ประเทศไทยจะไม่ถึงขั้นประสบวิกฤตภัยแล้งหนัก แต่มีความเสี่ยงหากปรากฎการณ์เอลนีโญรุนแรงจนทำให้ไทยเข้าสู่ช่วงขาดฝนหรือมีปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ จะทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งรุนแรงตั้งแต่ปลายปี 2023 ถึงปี 2024 ซึ่งอาจกดดันผลประกอบการและศักยภาพทำกำไรของบางอุตสาหกรรม ดังนั้นสำหรับนักลงทุนระยะกลางที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำ ระมัดระวังหรือเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่จะได้รับผลเชิงลบจากภัยแล้งผ่านกำลังซื้อที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT) ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำหาจังหวะเก็งกำไร สำหรับหุ้นที่คาดได้รับผลบวกจากภัยแล้ง อย่าง กลุ่มน้ำตาลและกลุ่มปาล์ม ส่วนกลุ่มพลังงาน&ปิโตรเคมี และโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ คาดจะไม่กระทบต่อการผลิตจากภาวะแล้งที่คาดจะไม่รุนแรง แต่หากภาวะแล้งรุนแรงกว่าคาด อาจทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำเพิ่มขึ้น
    PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  El Nino ปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญและเฝ้าระวังในปลายปีนี้ (1)

    หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
    กลับด้านบน