เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นร้อนแรงโดยเฉพาะสหรัฐ จาก (1) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.25%-5.5% ตามคาดซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี แต่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในปีหน้า มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยมองว่าจะปรับลดไปสู่ 4.6% ในปี 2024 และ 3.6% ในปี 2025 (2) เงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปสหรัฐอยู่ที่ 3.1% ในเดือน พ.ย. จาก 3.2% ในเดือนก่อน ขณะที่เงินเฟ้อผู้ผลิตทั่วไปอยู่ที่ 0.9% ต่อปี จาก 1.2% ในเดือนก่อน (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น199,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.8 แสนตำแหน่ง จากการกลับมาทำงานของแรงงานภาคยานยนต์หลังการประท้วงสิ้นสุดลง ขณะที่ภาคสาธารณสุขและรัฐบาลจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่ภาคค้าปลีกและการจ้างงานชั่วคราวลดลง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่าคาดที่ 3.7% ด้านรายได้ต่อชั่วโมงเฉลี่ย ทรงตัวที่ 4.0% ต่อปี ขณะที่รายได้เฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ 3.7% จากเดือนก่อนที่ 3.1% (4) เงินเฟ้อผู้บริโภคของจีนตกต่ำต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกลัวภาวะเงินฝืดเพิ่มสูงขึ้น ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.5% ในเดือน พ.ย. ต่อปี ลดลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2020 และอ่อนแอกว่าการหดตัว -0.2% ที่ตลาดคาด ด้านราคาผู้ผลิตลดลง -3% ต่ำกว่าคาดที่ -2.8% ซึ่งเป็นการหดตัว 14 เดือนติดต่อกัน (5) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BoE) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.0% (Deposit rate) และ 5.25% ตาม ตลาดคาด แต่ยังคงมุมมองนโยบายการเงินที่ตึงตัวต่อไปในปี 2024 ซึ่งต่างจากตลาดคาดว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง 1H24 และลดทั้งปี 125 bps (6) ยอดค้าปลีก พ.ย. ของสหรัฐ +0.3%MoM, +4.1%YoY สวนทางที่ตลาดคาด -0.1%MoM ขณะที่ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ 2.02 แสนราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค.
ตลาดหุ้นโลก
•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นร้อนแรงโดยเฉพาะสหรัฐ จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) สหรัฐที่มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณ Pivot โดยจะลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในปีหน้า มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ที่ 3.1% ในเดือน พ.ย. จาก 3.2% ในเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังคงร้อนแรง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น199,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.8 แสนตำแหน่ง จากการกลับมาทำงานของแรงงานภาคยานยนต์หลังการประท้วงสิ้นสุดลง ส่งผลบวกต่อการลงทุนต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นไทย
•สัปดาห์นี้ตลาดทรงตัว แม้ว่าจะได้ผลบวกจากตลาดโลกที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการประชุม Fed ขณะที่ในไทยมีปัจจัยจาก (1) ธปท. ประเมินเงินเฟ้อหดตัวชั่วคราว คาดกลับเพิ่มขึ้นใน 1Q24 ขณะที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ส่งออกเสี่ยงฟื้นตัวช้ากว่าคาด (2) นายกฯ เตรียมเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนในประเทศจาก 28% เป็น 50% ใน 5 ปี พร้อมหารือลาวรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด (3) สอท. ระบุดัชนีความเชื่อมั่นด้านอุตฯ เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 5 เดือน (4) นายกฯ ประกาศจัดการหนี้ทั้งระบบ 16 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มตามสภาพหนี้ พร้อมโอนกลุ่มเรื้อรังไป AMC 3 ล้านราย
ตลาดพันธบัตร
•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับลดลงที่ 2.77% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 2.34% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 2,892 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
•ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค. ที่ 75.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 76.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ด้านราคาทองคำ (spot) ทรงตัวที่ 2,049.2 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก WealthWeekend_231215_T