ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โตรเคมีแคบลง 3-8% WoW เพราะราคาผลิตภัณฑ์ลดลงและต้นทุนแนฟทาสูงขึ้น (+1% WoW) ราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงเพื่อสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงในสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่อุปสงค์ยังคงฟื้นตัวช้า โดยถูกซ้ำเติมจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารในยุโรปและสหรัฐฯ เราเชื่อว่าประเด็นนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ SETPETRO ปรับตัวลดลง (-1% WoW) แย่กว่า SET อยู่เล็กน้อย แม้ว่า valuation ในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่เกือบ -2SD PBV (ปี 2566) เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ยังคงไม่แน่นอนสืบเนื่องมาจากกิจกรรมโรงงานของจีนที่ซบเซาในเดือนมี.ค. ท่ามกลางคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ยังคงอ่อนแอ
ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงอยู่เบื้องหลังราคา PE/PP ที่อ่อนแอ การปรับราคาผลิตภัณฑ์ PE และ PP (ลดลง 1%-3% WoW) ยังคงเกิดขึ้นช้ากว่าต้นทุนแนฟทาที่ปรับขึ้นมาแล้วตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและอุปสงค์ที่สูงขึ้นเพื่อใช้เป็นส่วนผสมน้ำมันเบนซิน ส่งผลทำให้ส่วนต่างราคา PE/PP โดยเฉลี่ยลดลง 5% WoW สู่ US$407/ตัน เทียบกับค่าเฉลี่ย 12 เดือนที่ US$424/ตัน ส่วนต่างราคา PE/PP โดยเฉลี่ยใน 1Q66 เพิ่มขึ้น 7% QoQ สู่ US$387/ตัน แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนเงินสดที่ US$350/ตัน โดยมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานเนื่องจากมีกำลังการผลิตเพิ่มเติมในจีนซึ่งอาจเกิดขึ้นยืดเยื้อในปี 2566 มาร์จิ้นไม่น่าจะฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2567 เป็นอย่างเร็ว (S&P Global)
อุปทาน PX ตึงตัวต่อเนื่อง อุปทาน PX ในภูมิภาคเอเชียยังคงตึงตัวและหนุนให้ส่วนต่างราคา PX ในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 1% WoW สู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ที่ US$452/ตัน โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันตามฤดูกาลและอุปสงค์ส่วนผสมน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันจึงต้องการผลิตน้ำมันเบนซินให้ได้สูงที่สุดก่อนถึงเทศกาลขับรถท่องเที่ยว นอกจากนี้ภาวะอุปทาน PX ตึงตัวยังเป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงในภูมิภาคเอเชีย แม้ว่าอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำของจีนชะลอตัวลง สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้มีการชำระราคา Asia Contract Price (ACP) สำหรับ PX สำหรับเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการชำระราคาครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 แต่น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (S&P Global) ส่วนต่างราคาเบนซีนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% WoW สู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ US$307/ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนที่ US$257/ตัน ค่อนข้างมาก สะท้อนถึงอุปสงค์ที่เป็นบวกมากขึ้นในการผลิตภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเบนซีนถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ปลายน้ำในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและก่อสร้าง
ส่วนต่างราคา integrated PET แคบลง เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ราคา bottle-grade PET ทรงตัว WoW ที่ US$1,000/ตัน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนที่ US$1,083 /ตัน อยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคา integrated PET ลดลง 4% WoW สู่ US$182/ตัน เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น แม้ว่ายังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือน (US$177/ตัน) อุปสงค์ bottle-grade PET แข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีนและการเดินทางทางอากาศมากขึ้น รวมถึงอุปสงค์ที่สูงขึ้นจากรัสเซียซึ่งอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรจากยุโรปและสหรัฐฯ เราเชื่อว่าส่วนต่างราคา integrated PET จะยังคงอยู่ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบ (หลักๆ คือ PX และ PTA) ที่สูงขึ้นใน 2Q66