เมื่อพิจารณาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งหมด 5 มาตรการที่ประกาศเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 เรามองว่าการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ลบ. (จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567) จะช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากที่สุดในระยะสั้น และผู้ประกอบการที่มีที่อยู่อาศัยพร้อมโอนในปี 2567 ในเซกเมนต์ดังกล่าวจะได้รับประโยชน์มากที่สุด เราเลือก AP และ SPALI เป็นหุ้นเด่น 5 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ได้มีการประกาศมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ รวม 5 มาตรการ: 1)การลดค่าจดทะเบียนการโอน สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ลบ./หน่วย จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 มีผลจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 2)การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน: บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าจ้างก่อสร้างบ้านไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ลบ.ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ 9 เม.ย. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 3)โครงการสินเชื่อบ้าน “Happy Home” วงเงินโครงการ 2.0 หมื่นลบ. โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี 4)โครงการสินเชื่อบ้าน “Happy Life” วงเงินโครงการ 1.0 หมื่นลบ. โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 2.98 ต่อปี 5)การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์: คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงินไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุน สำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ส่งผลบวกในระยะสั้นหลัง 1Q67 อ่อนแอ แรงกดดันจากปัจจัยลบอันได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การเติบโตของเศรษฐกิจที่ลดลง และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูงใน 1Q67 ทำให้บริษัทภายใต้การวิเคราะห์ของเรา (AP, LH, LPN, PSH, QH, SIRI, SPALI) รายงานยอด presales เบื้องต้นที่ 4.0 หมื่นลบ. (-19% YoY และ -5% QoQ) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 19% ของเป้ายอด presales ปี 2567 รวมทั้งหมดของบริษัทเหล่านี้ที่ 2.14 แสนลบ. (+21% YoY) เราคาดว่ามาตรการเหล่านี้ โดยเฉพาะการลดค่าจดทะเบียนการโอนและการจำนองลงเหลือ ร้อยละ 0.01 สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ลบ./หน่วย จะช่วยผลักดันให้ยอด presales ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป โดยเฉพาะโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ (RTM) และคอนโดที่มีกำหนดก่อสร้างเสร็จในปี 2567 เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เพียง 9 เดือน ดังนั้นการมีสินค้าพร้อมตอบสนองต่อความต้องการจึงเป็นสิ่งสำคัญ AP และ SPALI เป็นหุ้นเด่น เรามองว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่บริษัทต่างๆ จะรายงานรายได้ปี 2567 เติบโตถึงเป้าที่วางไว้ที่ 14.6% สู่ 1.98 แสนลบ. ชดเชย 1Q67 ที่อ่อนแอ และยังช่วยระบายสินค้าคงคลังอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี upside จากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลงจากการจ่ายค่าจดทะเบียนการโอนลดลง 1% ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนที่อยู่อาศัยพร้อมขายราคาไม่เกิน 7 ลบ. (Figure 1) และพร้อมโอนในปี 2567 SPALI (ราคาเป้าหมาย 23.80 บาท) และ AP (ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น) มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากมาตรการเหล่านี้มากที่สุด |
|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก PROP240410_T |
|
|