เราเชื่อว่าราคาหุ้น BBL ที่ปรับตัวลดลง 7% YTD เปิดโอกาสให้เข้าซื้อ เนื่องจากเราเล็งเห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก: 1) การตั้งสำรอง (credit cost) ลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2) การเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่น 3) NIM ที่แข็งแกร่ง และ 4) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง เรายังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 180 บาท เนื่องจาก valuation ถูก ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ และสินเชื่อเติบโตโดดเด่น
ปัจจัยกระตุ้น
· Credit cost มีแนวโน้มปรับตัวลดลง BBL คาดว่า credit cost ปี 2567 จะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1% (เทียบกับ 1.41% ใน 1H67) สูงกว่าเป้าเดิมของธนาคารที่ 0.9-1% โดย credit cost ที่สูงกว่าคาดเล็กน้อยใน 1H67 เป็นเพราะธนาคารต้องการยึดหลักความระมัดระวังและเกลี่ยกำไร การเพิ่มขึ้นของ NPL ใน 2Q67 เป็นผลมาจากการกลับมาเป็น NPL ของสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้และไม่มีสัญญาณที่น่าตกใจ เรายังคงประมาณการ credit cost ปี 2567 ไว้ที่ 1.25% (-1 bps) โดยคาดว่า credit cost ใน 2H67 จะลดลงทั้ง HoH และ YoY สำหรับปี 2568 เราคาดการณ์ credit cost ตามหลักความระมัดระวังที่ 1.2% (-5 bps)
· สินเชื่อเติบโตโดดเด่น BBL มั่นใจว่าสินเชื่อจะเติบโตถึงเป้าที่ธนาคารวางไว้ที่ 3-5% (1.8% YTD เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ศูนย์) ในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 2% ค่อนข้างมาก การเติบโตของสินเชื่อในปี 2567 ได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ (ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์) และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ BBL ระบุว่าธนาคารมีดีลสินเชื่อกิจการต่างประเทศที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ธนาคารคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เพิ่มขึ้นในอาเซียน เทรนด์ ESG และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการเปลี่ยนมากู้ยืมงินจากธนาคารแทนการออกหุ้นกู้ท่ามกลางตลาดหุ้นกู้ที่ตึงตัว BBL อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดที่จะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานธุรกิจมายังอาเซียน
· การปรับเป้า NIM เพิ่มขึ้น BBL คาดว่า NIM ในปี 2567 จะสูงกว่าเป้าเดิมของธนาคารที่ 2.8% (เทียบกับ 2.96% ใน 1H67 และ 3.02% ในปี 2566) เนื่องจากธนาคารคาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เรายังคงประมาณการ NIM ของ BBL ไว้ที่ 2.95% (ทรงตัว) ในปี 2567 และ 2.93% (-2 bps) ในปี 2568
· อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลง BBL คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในปี 2567 จะต่ำกว่าเป้าของธนาคารที่ high 40% อยู่เล็กน้อยซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุน เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงจาก 48.9% ในปี 2566 สู่ 48.1% ในปี 2567 และ 47.4% ในปี 2568
คงคำแนะนำ OUTPERFORM เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BBL และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 180 บาท (อ้างอิง PBV 0.58 เท่า หรือ PE 7.5 เท่า สำหรับปี 25687) เนื่องจาก valuation ถูก ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ และสินเชื่อเติบโตโดดเด่น
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากการลดอัตราดอกเบี้ย 3) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) และความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก BBL_HighConviction240730_T
We believe that a 7% YTD fall in share price offers an opportunity to buy into BBL, as we see catalysts from: 1) easing credit cost over the rest of the year, 2) outperforming loan growth, 3) strong NIM and 4) easing cost to income ratio. We keep BBL as the sector’s top pick with an unchanged TP of Bt180 grounded in a cheap valuation, low asset quality risk and outperforming loan growth.
|
---|
Click here to read and/or download BBL_HighConviction240730_E |