เราคาดว่า CPALL จะรายงานกำไร 2Q66 เติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดยอิงกับกำไรปกติ 2Q66 ที่ประเมินได้ที่ 4 พันลบ. +32% YoY หลักๆ เกิดจากยอดขายและมาร์จิ้นของธุรกิจ CVS ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และส่วนหนึ่งเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT ที่ดีขึ้น แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ กำไรจะแข็งแกร่งขึ้นต่อไปอีกใน 2H66 (เพิ่มขึ้น YoY และ HoH) โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจ CVS ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและการดำเนินงานของ CPAXT ที่ดีขึ้น (ดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จในช่วงปลายเดือนเม.ย.) ราคาหุ้น CPALL ปรับตัว outperform SET อยู่ 4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะ outperform อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากโมเมนตัมกำไร 2Q66 และ 2H66 ที่แข็งแกร่ง คงเรทติ้ง OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 78 บาท
ปัจจัยกระตุ้น: กำไร 2Q66 จะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q66 ของ CPALL ที่ 3.9 พันลบ. +30% YoY แต่ -5% QoQ หากไม่รวมขาดทุนพิเศษจำนวน 129 ลบ. จากค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดของ CPAXT (ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CPALL) เราประเมินกำไรปกติ 2Q66 ได้ที่ 4 พันลบ. +32% YoY แต่ทรงตัว QoQ โดยกำไรปกติที่ปรับตัวดีขึ้น YoY หลักๆ เกิดจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่แข็งแกร่งขึ้น และส่วนหนึ่งเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT ที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรปกติในระดับทรงตัว QoQ เกิดจากธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้นช่วยชดเชยการดำเนินงานของ CPAXT ที่อ่อนตัวลงตามฤดูกาล CPALL จะประกาศผลประกอบการวันที่ 10 ส.ค.
ธุรกิจ CVS ใน 2Q66 เราคาดการณ์ SSS growth ที่ 7% YoY (ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดยค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 3% YoY) โดยเกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การกลับมาของนักท่องเที่ยว และอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ เราคาดว่า CPALL จะเปิดร้านสะดวกซื้อใหม่ 180 สาขาใน 2Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีสาขาสุทธิ 14,227 สาขา ณ สิ้น 2Q66 (+6% YoY และ +1% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น YoY จากการมียอดขายสินค้ากลุ่มของใช้ส่วนตัวและสินค้ากลุ่ม ready-to-eat & drink ที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวและการตัดสินใจซื้อแบบฉับพลันที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายมีแนวโน้มที่จะอยู่ภายใต้การควบคุม โดยค่าไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาที่สูงขึ้นจะถูกชดเชยโดยยอดขายที่สูงขึ้น
CPAXT (CPALL ถือหุ้น 60%) เราประเมินกำไรปกติ 2Q66 ของ CPAXT ได้ที่ 1.68 พันลบ. +7% YoY หลักๆ เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายในงบการเงินรวมที่ลดลง (-7% YoY และ -12% QoQ) จากการรีไฟแนนซ์หนี้ แต่ -19% QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล โดยใน 2Q66 เราคาดการณ์ SSS growth ในธุรกิจ B2B ที่ +5% YoY และธุรกิจ B2C ที่ -1% YoY ทั้งนี้ภาวะที่ราคาสินค้าอาหารปรับตัวลดลงน่าจะส่งผลกระทบทำให้ SSS growth ของทั้งสองธุรกิจหายไปราว 1.5-2.0% YoY และการปิดทำการ 6 ชั่วโมง/วันในช่วงกลางคืนสำหรับสาขารูปแบบขนาดเล็กในธุรกิจ B2C เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบทำให้ SSS growth ในธุรกิจ B2C หายไปอีกราว 1% YoY
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ ยอดขายในธุรกิจ CVS ที่แข็งแกร่งกว่าคาดจะช่วยจำกัด downside ของกำไรจากยอดขายของ CPAXT ที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566 ของ CPALL ไว้ที่ 1.7 หมื่นลบ. หลังจากปรับประมาณการ SSS growth ปี 2566 ของธุรกิจ CVS เพิ่มขึ้นสู่ 5.5% (จาก 4%) ซึ่งจะช่วยชดเชยการปรับประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขายของ CPAXT ลดลง เราคาดว่ากำไร 2H66 ของ CPALL จะเติบโตในอัตราเร่ง YoY และ HoH โดยได้แรงหนุนจาก 1) การเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจ CVS ทั้งยอดขายและมาร์จิ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยว; 2) ส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT ที่ดีขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จในช่วงปลายเดือนเม.ย. และการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ราคาหุ้น CPALL ปรับตัว outperform SET อยู่ 4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะ outperform อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากโมเมนตัมกำไร 2Q66 และ 2H66 ที่แข็งแกร่ง เราให้เรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ CPALL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7.0% และอัตราการเติบโตระยะยาว 2.5%) ที่ 78 บาท
ความเสี่ยง คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และนโยบายรัฐบาลใหม่
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม CPALL_HighConviction230710