สวัสดีตอนเช้า - 9 ส.ค. 2567 บวกช่วงสั้น แต่กรอบบนจำกัด

9 Aug 24 9:00 AM

บวกช่วงสั้น แต่กรอบบนจำกัด

คาด SET ช่วงแรก ได้ปัจจัยหนุนคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด หนุนดัชนีปรับตัวขึ้น โดยมีแนวต้านที่ 1305 และ 1310 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดกรอบบนถูกจำกัด จากแรงขายก่อนหยุดยาว และรอติดตามคำวินิจฉัยคดีนายกฯ ในวันพุธหน้า ด้านแนวรับอยู่ที่ 1286 และ 1280 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ThaiBMA เผยกระแสเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรช่วง 2 สัปดาห์ มูลค่า 6.38 หมื่นลบ. มองแนวโน้มเงินทุนยังทยอยไหลเข้า ปัจจัยพื้นฐานไทยไม่เปลี่ยน คาดปลายปีนี้จะสามารถพลิกเป็นซื้อสุทธิหลักหมื่นลบ. ได้
• ททท. เผยช่วงวันแม่แห่งชาติซึ่งหยุดติดต่อกัน 3 วัน (10-12 ส.ค. 2024) คาดมีชาวไทยเที่ยว 2.6 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 9.4 พันลบ. เติบโตน้อยกว่าวันหยุดยาวในเดือนก.ค. เนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย
• คลังเตรียมเปิดรับฟังความเห็นจากนักลงทุนทั่วไปทั้งสถาบันและรายย่อย กรณีจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์เพิ่มในปลายปีนี้ วงเงิน 1.0-1.5 แสนลบ. เพิ่มจากกองทุนเดิมที่มีมูลค่า 3.5 แสนลบ. ขายหน่วยละ 10 บาท และการันตีผลตอบแทนสูงเทียบเท่าพันธบัตร 10 ปี
• กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตลาดคาด ช่วยให้นักลงทุนคลายความความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
• โตโยต้าลดเป้าการผลิตครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังเกิดปัญหาอื้อฉาวในการทดสอบคุณภาพยานยนต์ ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตบางส่วน ส่วนกำไรสุทธิ 1Q24FY (เม.ย.-มิ.ย. 67) ของฮอนด้าขยายตัว 8.7% อานิสงส์ยอดขายรถยนต์ Hybrid ในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น
• BOI เห็นชอบส่งเสริมลงทุนกิจการดาต้าเซ็นเตอร์จากฮ่องกงมูลค่ากว่า 2.5 พันลบ. ตั้งในเขตอุตฯ นวนคร, มาตรการส่งเสริมการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมาตรการส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
• 2Q24 Berkshire Hathaway ถือครองพันธบัตรระยะสั้นสหรัฐฯ 2.35 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 81%YoY และถือครองสูงกว่าเฟดที่ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ ประกอบกับช่วงก่อนที่ทยอยลดสถานะถือครองหุ้นอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะปรับลงตามตลาดหุ้นโลก เนื่องจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ และต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้ อย่างไรก็ดีมอง SET ยังมีโอกาสปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น ซึ่งคาดไทยมีแนวโน้มจะได้รับกระแสเงินนี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy"

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มองตลาดหุ้นไทยจะปรับลงจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย แต่ยังมีโอกาสปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากงบ 2Q67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 4 ธีม ดังนี้
1) หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งจะมีการประกาศงบ 2Q67 ในสัปดาห์หน้า โดยคาดกำไรจะยังสามารถเติบโต YoY อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก ADVANC TU CPAXT BTG CBG BCP GPSC AU
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เลือก ADVANC AOT CPALL BDMS BBL KTB GULF
3) หุ้นคาดได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA หรืออยู่ใน Global Sustainability Index เลือก DELTA TOP BEM AOT
4) ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว จากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น และยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

Daily Top picks

AOT: มองกำไรยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เติบโต โดยประเมินกําไรปกติ 3QFY67 (เม.ย.-มิ.ย. 2567) ที่ 4.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 48%YoY แต่ลดลง 18%QoQ สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 17.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27%YoY แต่ลดลง 11%QoQ คิดเป็น 90% ของระดับก่อนเกิด COVID-19 ทั้งนี้วันนี้แนะนำราคาซื้อไม่เกิน 57.00 บาท

DELTA: 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งยังมี Upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่า technical fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้วันนี้แนะนำราคาซื้อไม่เกิน 100.50 บาท

บทวิเคราะห์วันนี้

BH - 2Q67: กำไรตามคาด
CPAXT - 2Q67: กำไรสูงกว่าคาดเล็กน้อยจากมาร์จิ้น
GPSC - 2Q67: กำไรเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY เพราะต้นทุนก๊าซลดลง
GULF - 2Q67: กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดตามคาด
LPN - 2Q67: กำไรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ
OR - 2Q67: อ่อนแอลง QoQ ตามคาด
PTTGC - 2Q67: ดีกว่าคาด
QH - 2Q67: กำไรสุทธิลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
SAT - 2Q67: กำไรต่ำกว่าคาดเพราะยอดขายอ่อนแอ
TIDLOR - 2Q67: NPL และ credit cost เพิ่มขึ้นตามคาด
TOP - 2Q67: กำไรสูงกว่าคาด

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily090824_T

Positive in the short term, but upper bound is limited

Market today

The SET is expected improve, supported by relief from US recession concerns as initial jobless claims last week came in lower than expected. The index has resistances at 1305 and 1310. However, the upper bound is limited by selling to avoid holidays. Watch for the verdict on the Prime Minister next Wednesday. Supports are at 1286 and 1280.

Today’s highlights

• ThaiBMA reports an inflow of Bt63.8bn into the bond market over the past two weeks, with gradual inflows expected as Thailand's fundamentals remain unchanged. By the end of this year, they expect to see a net buy position.
• TAT predicts the three-day Mother's Day holiday will bring 2.6mn domestic trips and generate Bt9.4bn in revenue. Growth is less than the long weekend in July due to high household debt levels and high cost of living.
• The Ministry of Finance is preparing to seek public opinion regarding the issuance of additional Vayupak Fund units worth Bt100-150bn later this year. This would be an increase from the existing fund valued at Bt350bn. The units will be sold at 10 baht, with guaranteed returns equivalent to 10-year government bonds.
• US initial jobless claims decreased to 233,000 in the past week, lower than expected, alleviating concerns on oil demand trends.
• Toyota has reduced its production target for the first time in 4 years following a scandal involving vehicle quality testing, resulting in partial production halts. Honda's net profit in 1Q24FY (Apr-Jun 2024) increased by 8.7%, benefiting from increased sales of hybrid vehicles in the US and Japan.
• The BOI has approved investment promotion for a Hong Kong data center project worth over Bt2.5bn to be established in Navanakorn Industrial Estate, and approved measures to promote joint ventures between Thai and foreign companies in the automotive parts and air transport businesses to support the tourism industry.
• In Q2 2024, Berkshire Hathaway held US$235bn in short-term US Treasury bonds, +81%YoY, exceeding the Fed's holdings of US$195bn. Prior to this, Berkshire had been gradually reducing stock positions.

Strategy today

In the short term, the SET is expected to decline in tandem with world equity markets on worries over a US recession, while waiting for a clearer political picture at home and this plus uncertainties in the Middle East and the technology war, which may escalate and impact investment, continue to dog the market. However, the SET may decline less than world markets as 2Q24 earnings are being released, showing earnings recovery. The index is also expected to benefit from fund flows returning to emerging markets. Our strategy is "selective buy".

Trading today

The Thai capital market is expected to decline on concerns about a US recession but the fall may be less steep than global markets since 2Q24 earnings are expected to show improvement plus more funds are expected to flow into emerging markets. We recommend "Selective Buy" with four main themes:
1) Earnings plays: 2Q24 profit to grow YoY and valuations are not expensive - ADVANC, TU, CPAXT, BTG, CBG, BCP, GPSC and AU.
2) Stocks expected to benefit from the adjustment of ThaiESG conditions that will raise the maximum tax reduction to Bt300,000 and reduce the holding period to 5 years - ADVANC, AOT, CPALL, BDMS, BBL, KTB and GULF.
3) Stocks expected to benefit from short covering after the uptick rule started on July 1, also with strong fundamentals with SETESG Ratings between AAA and A - DELTA, TOP, BEM and AOT
4) Brent price has recovered as there continues to be attacks on cargo ships in the Red Sea and on energy infrastructure in Russia, although the Middle East conflicts remain fairly contained. We expect the price to be at US$80-90/bbl. Oil stocks are good as a hedge against risk. For high-risk takers, we recommend an upstream oil stock - PTTEP.

Daily top picks

AOT: Profit is expected to grow in tandem with the tourism industry. 3Q24FY core profit (Apr-June 2024) is expected to be Bt4.8bn, growing 48%YoY but falling 18%QoQ, consistent with the number of international passengers of 17.8mn, growing 27%YoY but falling 11%QoQ, or 90% of pre-COVID-19 level. We recommend buy at not higher than Bt57.00/share.

DELTA: 2H24 profit is expected to continue to grow off growing sales of AI-related products and an upside from development and sales of AI-related power supply products that it is developing itself. Doing its own R&D means the company does not have to pay technical fees to DELTA Taiwan. Recommend buy at not higher than Bt146.50/share.

Today’s reports

BH - 2Q24: In line with estimates
CPAXT - 2Q24: Slightly above estimates on margin
GPSC - 2Q24: Up QoQ & YoY on lower gas cost
GULF - 2Q24: Record high, as expected
LPN - 2Q24: Net profit up YoY and QoQ but misses
OR - 2Q24: Weaker QoQ, as expected
PTTGC - 2Q24: Better than expected
QH - 2Q24: Net profit in line, down YoY, up QoQ
SAT - 2Q24: Below estimates on poor sales
TIDLOR - 2Q24: Rising NPLs & credit cost as expected
TOP - 2Q24: Above all estimates

Click here to read and/or download Daily090824_E