เคลื่อนไหวในกรอบ 1370-1385 จุด | |||||||||||||||
ความหวังการลดดอกเบี้ยเฟดของตลาด ยังเป็นปัจจัยหนุน อย่างไรก็ตาม แนวต้านบริเวณ 1380-1385 จุด ยังไม่สามารถขึ้นทะลุผ่านได้ ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณนี้ ส่วนกรอบล่างมีแนวรับอยู่ที่ 1370 และ 1365 จุด ตามลำดับ ทำให้คาด SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหวภายในกรอบระหว่าง 1370-1385 จุด | |||||||||||||||
ประเด็นสำคัญ | |||||||||||||||
• นายโทมัส บาร์กิน ปธ. Fed สาขาริชมอนด์ รวมทั้ง จนท. Fed หลายรายแสดงความเห็นว่า Fed ควรรอให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงมากกว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลด ดบ. • วานนี้ราคาหุ้นกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนปรับขึ้น โดยได้แรงหนุนจากรัฐบาลจีนจะออกนโยบายสนับสนุนการซื้อบ้านค้างสต็อกหลายล้านยูนิต มูลค่ากว่า 67.5 ล้านลบ. เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ • Toshiba Corp. เตรียมลดพนักงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง ผ่านข้อเสนอการเกษียณอายุก่อนกำหนด และจะรวมบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่งเข้ากับบริษัทแม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและพลิกฟื้นธุรกิจ • กบน. เห็นชอบลดการชดเชยน้ำมันดีเซลอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาขายปลีกปรับขึ้น 50 สตางค์/ลิตร ปัจจุบันอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.นี้ คาดช่วยเพิ่มสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน • รมว.คลัง ระบุการหารือกับผู้ว่า ธปท. วานนี้ ไม่มีการคุยเรื่องลด ดบ. โดยเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของ ธปท. และ กนง. แต่ขอให้ ปชช. โดยเฉพาะรายย่อยเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายขึ้น พร้อมเตรียมปรับเป้ากรอบเงินเฟ้อ 1-3% ใหม่ หลังใช้มานาน 3-4 ปี • จับตา สศช.แถลง GDP 1Q67 วันที่ 20 พ.ค. ขณะที่ TDRI คาดแรงกดดันจาก ศก. โลกชะลอกระทบส่งออก เบิกจ่ายงบล่าช้า ฉุดการขับเคลื่อน ศก. รวมทั้งหนี้ครัวเรือนสูง ชะลอการใช้จ่ายภาคครัวเรือน • REIC ระบุสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย 1Q67 ชะลอตัวมากด้านอุปสงค์ จำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่ว ปท. ลดลง 13.8% จำนวนเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ขยายตัวลดลง 20.5% ต่ำสุดรอบ 25 ไตรมาส | |||||||||||||||
กลยุทธ์การลงทุน | |||||||||||||||
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยยังให้น้ำหนักกับการติดตามโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะยังเห็นภาพการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ช้า ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐและยูโรโซนที่จะประกาศออกมาคาดยังไม่เห็นสัญญาณการปรับลง ซึ่งอาจกดดันตลาดการเงินในช่วงสั้นได้ แต่อย่างไรก็ดี ภาพการผลิตของจีนคาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” | |||||||||||||||
ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ | |||||||||||||||
ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยให้น้ำหนักกับการติดตามโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ในสัปดาห์นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 1) หุ้นธีม Earnings Play สำหรับเก็งกำไรผลประกอบการ 1Q67 ซึ่งคาดจะเติบโตดี YoY อีกทั้งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นไม่มาก เลือก AOT BDMS BEM ERW MINT BCH OSP 2) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรในหุ้นคาดมีโมเมนตัมกำไร 2Q67 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก BEM KCE HMPRO THRE TIDLOR 3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง และรายงานสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นทิศทางตามฤดูกาล ในกรณีฐานที่เป็นสงครามเงา ราคาน้ำมันดิบ Bent จะอยู่ในระดับที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้นการมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP | |||||||||||||||
Daily Top picks | |||||||||||||||
OSP 2Q67 คาดผลประกอบการดีต่อเนื่อง หนุนจากช่วงไฮซีซั่นของยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังใน ปท. และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง การควบคุมต้นทุนขายและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ 2.75 พันลบ. (+14.7%YoY ) จากบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นและการฟื้นตัวของยอดขาย | |||||||||||||||
บทวิเคราะห์วันนี้ | |||||||||||||||
OSP (High Conviction) – ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2567 แข็งแกร่ง BCH – 1Q67: กำไรตามคาด CENTEL – 1Q67: กำไรดีกว่าคาดจากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่ง TIDLOR – กำไรเติบโตดีและมีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล | |||||||||||||||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240517_T
|