Keyword
Company Update

LH – 1Q66: กำไรลดลง YoY และ QoQ, ต่ำกว่าคาด – ปรับเรทติ้งลงสู่ NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท)

15 May 23 5:11 PM
16052023-19-(1)-20240912051128

กำไรสุทธิ 1Q66 ของ LH ลดลง YoY และ QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด เพราะยอดขาย รายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เราปรับประมาณการรายได้ปี 2566 ลดลง 6% เพื่อสะท้อนยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง และปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลดลง 50 bps ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่เราปรับใหม่อยู่ที่ 8.5 พันลบ. (+3.2%) เรายังไม่ได้รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์ใน 4Q66 เข้ามาในประมาณการของเรา เราปรับคำแนะนำ tactical call สำหรับ LH ลงจาก “OUTPERFORM” สู่ “NEUTRAL” ด้วยราคาเป้าหมาย 10.50 บาท/หุ้น

กำไรสุทธิ 1Q66 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ กำไรสุทธิ 1Q66 ของ LH อยู่ที่ 1.35 พันลบ. (-30% YoY และ -32% QoQ) เพราะได้รับแรงกดดันจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง รายได้อยู่ที่ 6.6 พันลบ. (-12.4% YoY และ -32% QoQ) โดย 73% มาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ (-31%), 89% มาจากบ้านเดี่ยว, 5% มาจากทาวน์เฮ้าส์ และ 6% มาจากคอนโด รายได้จากธุรกิจให้เช่าและโรงแรมอยู่ที่ 1.87 พันลบ. (+184%) คิดเป็น 27% ของรายได้รวม อัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยหดตัวลงสู่ 30.1% จาก 33.4% ใน 4Q65 และ 32% ใน 1Q65 อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงสู่ 28.7% เนื่องจากต้นทุนทางอ้อมเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจให้เช่าและโรงแรมอยู่ที่ 36.5% เพิ่มขึ้นจาก 29% ใน 1Q65 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยยังแข็งแกร่งที่ 848 ลบ. (+18.3% YoY และ +8.6% QoQ)

ยอดขายลดลง YoY และ QoQ การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงมากถึง 76% YoY และ 82% QoQ สู่ 1.4 พันลบ. ส่งผลทำให้ LH ทำยอดขายใน 1Q66 ได้เพียง 4.8 พันลบ. (-40% YoY และ -14% QoQ) ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี ยอดขายบ้านเดี่ยวลดลง 36% YoY และ 14% QoQ ทาวน์เฮ้าส์ลดลง 68% YoY และ 32% QoQ และคอนโดลดลง 48% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ ส่งผลทำให้ยอดขาย 1Q66 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 14% ของเป้ายอดขายที่ LH วางไว้ในปี 2566 ที่ 3.5 หมื่นลบ. (+16%) LH ยังคงแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 3.5 หมื่นลบ. ในปี 2566 (+8% YoY) โดย 18% จะเปิดตัวใน 2Q66, 37% ใน 3Q66 และ 42% ใน 4Q66 แม้เราคาดว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H66 เมื่อมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่มีโอกาสที่ LH จะทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 3.5 หมื่นลบ. (+16%)

ปรับประมาณการปี 2566 ลดลง เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นและยอดขายที่ลดลง ปัจจุบัน LH มี backlog มูลค่า 3.57 พันลบ. โดย 93% เป็นบ้านเดี่ยว และที่เหลือเป็นทาวน์เฮ้าส์และคอนโด ซึ่งทั้งหมดนี้บริษัทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566 ยอดขายที่ลดลงและโครงการใหม่ที่น้อยลงทำให้เราปรับประมาณการรายได้ปี 2566 ลดลง 6% สู่ 3.78 หมื่นลบ. (+7.2%) และปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 32% สู่ 31.5% สืบเนื่องมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แคบลงใน 1Q66 การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลดลงสู่ 8.57 พันลบ. (+3.2%) เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q66 จะฟื้นตัว QoQ แต่ลดลง YoY

วางแผนขายสินทรัพย์ 2 รายการใน 4Q66 LH วางแผนขายสินทรัพย์โรงแรม Grande Centre Point Pattaya Hotel และ Grande Centre Point Hotel Space Pattaya มูลค่าสินทรัพย์ 9.8 พันลบ. ให้กับ REIT (LHHOTEL) ในปี 2566 ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของสินทรัพย์เหล่านี้ เราจึงคาดการณ์ถึงผลตอบแทนที่โดดเด่นในแง่กระแสเงินสดและกำไรสุทธิ ธุรกรรมนี้ยังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการปี 2566 ของเรา

ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล ปัจจัยที่ต้องจับตา: 1) ความคืบหน้าการก่อสร้าง ซึ่งบริษัทหวังว่าจะทำได้เร็วขึ้นในปี 2666 หลังจากประสบกับความล่าช้าในปี 2565 โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว 2) การบริหารสินค้าคงเหลือคอนโด มูลค่า 8 พันลบ. และ 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นในกลุ่มแนวราบ

“NEUTRAL” ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 10.5 บาท เราปรับคำแนะนำ tactical call สำหรับ LH ลงจาก “OUTPERFORM” สู่ “NEUTRAL” ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ปรับใหม่เป็น 10.50 บาท/หุ้น โดยอิงกับระดับ +0.5SD PE ที่ 14.7 เท่า

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  LH230515_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5