หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เราปรับเรทติ้งสำหรับ SAWAD ขึ้นสู่ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 53 บาท สู่ 55 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการรวม FM เข้ามาในงบการเงินรวมและการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อที่ SAWAD เองเพิ่มขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อของ SAWAD เองจะเติบโตในอัตราชะลอตัวลงแต่ยังแข็งแกร่ง NIM จะลดลง ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงในปี 2566
ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อเพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ของ SAWAD เพิ่มขึ้นจาก 30% สู่ 71% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อที่ SAWAD เองเพิ่มขึ้นสู่ 35% เพื่อสะท้อนสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 17% QoQ ใน 1Q66 และมีสินเชื่อเพิ่มเข้ามาอีก 2.0 หมื่นลบ. (36% ของสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2565) จากการรวมงบของบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด (FM) เข้ามาในงบการเงินรวมในช่วงกลางปีนี้ (สิ้นเดือนมิ.ย. หรือต้นเดือนก.ค.) หลังจากซื้อหุ้น 49% ใน FM คืนจากธนาคารออมสิน (GSB) ซึ่งจะทำให้ SAWAD มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FM เพิ่มขึ้นเป็น 98%
NIM จะลดลง เราคาดว่า NIM จะลดลงในปี 2566 และปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลงและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะถูกฉุดรั้งโดยการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% (มีผลวันที่ 10 ม.ค. 2566) และการรวมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ของ FM ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ราว 15% (ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและโฉนดที่ดิน และสินเชื่อส่วนบุคคล) เข้ามา ทั้งนี้หลังจากเข้าซื้อหุ้นของ FM SAWAD วางแผนปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น ภายใต้ข้อตกลงร่วมกับ GSB FM จะยังคงสามารถกู้เงินจาก GSB ในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม แต่ไม่สามารถนำเงินที่ได้จาก GSB ไปปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 18% ได้ เราคาดว่า NIM จะลดลง 131 bps ในปี 2566 (หลักๆ ถูกบิดเบือนโดยการรวมงบกำไรขาดทุนครึ่งปี เทียบกับการรวมงบดุลเต็มปีของ FM เข้ามาในงบการเงินรวม) และ 29 bps ในปี 2567
อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลง ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบจากการคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ SAWAD จึงลดอัตราค่าคอมมิชชั่นสำหรับดีลเลอร์ลง 50% เพื่อชดเชยการปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลง เราคาดว่าการรวมงบของ FM เข้ามาในงบการเงินรวมของ SAWAD จะส่งผลทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ของบริษัทลดลงเล็กน้อยผ่านทางการประหยัด VAT ค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าธรรมเนียมการแนะนำ เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงจาก 47.7% ในปี 2565 สู่ 46.9% ในปี 2566 และ 45.3% ในปี 2567
ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมาก SAWAD คาดการณ์ credit cost ในระดับปกติที่ 1-1.3% (1.4% ใน 1Q66) ในปี 2566 เทียบกับ 0.2% ในปี 2565 เราคาดการณ์ credit cost ที่ 2% สำหรับปี 2566 และ 3% สำหรับปี 2567 บริษัทยังคงติดตามหนี้อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุม NPL บริษัทคาดว่าอัตราส่วน NPL จะอยู่ที่ 2.5-2.7% ในปี 2566 (เทียบกับระดับปกติที่ 4%) เราคาดว่าอัตราส่วน NPL จากสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำในปัจจุบันที่ 2% (เทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันที่ 7%) หลังจากที่มีการเร่งขยายสินเชื่อในปี 2565 และ 1Q66
ปรับเรทติ้งขึ้นสู่ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น เราปรับเรทติ้งสำหรับ SAWAD ขึ้นสู่ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นและราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 และปี 2567 เพิ่มขึ้นปีละ 5% เพื่อสะท้อนการซื้อหุ้น FM คืนมาจาก GSB และการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อที่ SAWAD เองเพิ่มขึ้น ซึ่งหนุนให้เราปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 53 บาท สู่ 55 บาท (PBV 2.65 เท่า หรือ PE ปี 2566 ที่ 15 เท่า)
ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูงและการเร่งขยายสินเชื่อ 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม SAWAD230518_T