Stock Note

INVX Stock Note – III

8 Aug 24 9:00 AM
iiid981f7ab-38dc-47ac-b319-08bd12c8e094-20240911215333

ก่อนไปคิดอะไร

  • - บริษัทมองผลการดำเนินงาน 2H67 อย่างไร หลัง 2Q67 III มีกำไรสุทธิ 103 ลบ. หดตัว 35%YoY และ 12%QoQ โดยแม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 22%YoY และ 7%QoQ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จาก Air freight (+36%YoY), Sea freight (+40%YoY) และ Chemical (+6%YoY) ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของตลาดสินค้า E-Commerce และค่าระวางที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในทะเลแดง แต่การเติบโตของรายได้ถูกหักล้างด้วยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบ.ร่วมที่ลดลงเหลือ 94 ลบ. จาก 146 ลบ. ใน 2Q66 และ 103 ลบ. ใน 1Q67 หลักๆ จากกำไรที่ลดลงของ ANI (มีมาร์จิ้นต่ำลงในเส้นทางขนส่งในเอเชีย ขณะที่มีพื้นที่ระวางในเส้นทางขนส่งไปยุโรปและสหรัฐจำกัดแม้มีอุปสงค์และมีมาร์จิ้นสูง) และ AOTGA (มีต้นทุนสูงขึ้นจากลงทุนเพิ่มทั้งอุปกรณ์และบุคลากร)
  •  

หลังไปได้อะไร

  • - ผู้บริหาร III ปรับลดเป้าการเติบโตปี 2567 ไว้ที่ราว 5-10%YoY จากเดิม 15%YoY โดยมอง 2Q67 จะเป็นจุดต่ำสุดของกำไรปีนี้ และ 2H67 ผลการดำเนินงานจะดีกว่า 1H67 แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และค่าระวางคาดได้อานิสงส์จากอุปสงค์ขนส่งที่เพิ่มขึ้นและปัญหาความขัดแย้งในทะเลแดงยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งบริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยจะร่วมมือกับ ANI พัฒนาการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบเพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาค และเพิ่มการขนส่งสินค้าแบบเช่าเหมาลำในเส้นทางยุโรปและสหรัฐซึ่งมีอุปสงค์และมาร์จิ้นสูงซึ่งคาดเริ่มให้บริการได้ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ส่วนการประมูลงานให้บริการภาคพื้นดิน (สำหรับบุคคลที่ 3) ที่สนามบินสุวรรณภูมิของ AOTGA คาดได้ข้อสรุปในปีนี้
  •  

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน

  • - แม้เราคาด 2H67 กำไรจะดีกว่า 1H67 ปัจจัยหนุนจาก High Season และส่วนแบ่งกำไรในบ.ร่วมฯ คาดจะปรับตัวดีขึ้น หลัง ANI มีแผนเพิ่มกำลังให้บริการและขยายตลาดใหม่ๆ ส่วน AOTGA คาดจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลลงทุนพัฒนาอุปกรณ์และเพิ่มบุคลากรไปใน 2Q67 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและปริมาณเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2H67 แต่กำไรสุทธิ 1H67 คิดเป็น 38% ของประมาณการทั้งปีซึ่งต่ำเกินไป จากส่วนแบ่งกำไรในบ. ร่วมฯ 1H67 ที่แย่กว่าคาดมาก อีกทั้งยังกังวลธุรกิจหลัก Air freight จะถูกกดดันจากอุปสงค์ขนส่งชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก เพื่อยึดหลักระมัดระวัง เราจึงปรับลดประมาณการกำไร โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2567 III จะมีกำไรปกติ 443 ลบ. หดตัว 19.7%YoY (แต่กำไรสุทธิจะลดลง 46%YoY จากปี 2566 มีรายการพิเศษสุทธิ 315 ลบ.)
  •  
  • - เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567 อยู่ที่หุ้นละ 5.80 บาท (อิง PER -1SD ที่ 10x จากค่าเฉลี่ยย้อนหลังล่าสุด 3 ปี) มี Upside 10% ซึ่งมองยังไม่จูงใจลงทุน อีกทั้งช่วงสั้นมองราคาหุ้นยังขาดปัจจัยกระตุ้น เนื่องจากคาด 2H67 และปี 2567 กำไรจะหดตัว YoY และมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจาก ศก. โลกถดถอย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่เดิมจึงคงคำแนะนำเพียง "Neutral" เพื่อรับปันผลและรอปัจจัยหนุนใหม่ โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2567 หุ้นละ 0.29 บาท คิดเป็น Yield ปีละ 5.5% ซึ่งล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายปันผลจากกำไร 1H67 หุ้นละ 0.12 บาท คิดเป็น Div. Yield 2.3% (XD 20 ส.ค. นี้)
  •  
  • - ความเสี่ยงสำคัญ คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, ความผันผวนของค่าระวาง, ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม (E) และการจัดการด้านความปลอดภัย (S)
 
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก III_Stock Note 240808_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5