Stock Note

INVX Stock Note – TNP

6 Aug 24 9:00 AM
TNP-stock-note4668fe59-580f-4460-84e4-1b11fc75d0b9-20240911170140
- ก่อนไปคิดอะไร
  • บริษัทมองผลการดำเนินงานช่วง 2H67 อย่างไรและมีแผนปรับเป้าหมายยอดขายปีนี้หรือไม่ หลัง 2Q67 TNP มีกำไรสุทธิ 42 ลบ. อ่อนตัวลง 5.9%QoQ ตามผลฤดูกาล แต่ยังเติบโต 11.7%YoY อย่างไรก็ดีหากไม่รวมกำไรจากขายสินทรัพย์ที่บันทึกใน 2Q66 ราว 3.59 ลบ. พบว่ากำไรปกติ 2Q67 จะเติบโต 4%YoY ด้วยแรงหนุนจาก 1) ยอดขายรวมที่เพิ่มขึ้น 10.3%YoY จากยอดขายสาขาเดิมทิ่เติบโต 1.4%YoY หลังตลาดนักท่องเที่ยวฟื้นตัว และจากการรับรู้ยอดขายจากสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 แห่ง (2Q67 มีเปิดสาขาใหม่ 1 แห่ง) และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 17.2% จาก 17.0% ใน 2Q66 และ SG&A/Sales ลดลงเป็น 10.3% จาก 10.6% ใน 2Q66 หลังเกิดผลประหยัดต่อขนาดจากมีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นและคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  •  
- หลังไปได้อะไร
  • TNP ยังคงตั้งเป้ายอดขายปี 2567 เติบโต 10%YoY เช่นเดิม (ยังไม่รวมผลบวกจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต) แรงหนุนจะมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม 2-3%YoY ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงรายที่ยังค่อนข้างแข็งแกร่งและการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยว อีกทั้งจากการรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้น โดย 2H67 คาดผลการดำเนินงานจะดีกว่า 1H67 เพราะปกติไตรมาสสี่จะเป็น High Season ของธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และบริษัทยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 แห่งใน 2H67 (ล่าสุดเปิด 1 สาขาใหม่ที่แม่สรวย จ.เชียงรายในเดือน ก.ค. และจะเปิดอีก 3-4 แห่งในช่วงที่เหลือปีนี้) ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2567 TNP มีสาขา 51 แห่ง จากสิ้นปี 2566 ที่มี 45 แห่ง
  •  
- ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
  • แม้ 3Q67 คาดกำไรจะอ่อนตัว QoQ ตามผลฤดูกาล (ปกติเป็น Low Season) แต่จะยังเติบโต YoY ส่วน 4Q67 คาดกำไรจะทำจุดสูงสุดปีนี้ โดยเติบโตได้ทั้ง YoY และ HoH เพราะเป็น High Season ของการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลสำคัญต่างๆ ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการเดิม โดยปี 2567 คาด TNP จะมีกำไรสุทธิ 173 ลบ. เติบโต 11%YoY (ยังไม่รวมมาตรการแจกเงินดิจิทัลซึ่งคาดจะเป็น Upside ต่อกำไรใน 4Q67 และปี 2568) ปัจจัยหนุนจากยอดขายสาขาเดิมที่คาดเติบโต 2-3%YoY ตามกำลังซื้อและตลาดท่องเที่ยวในเชียงรายที่ฟื้นตัว และการรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ยอดขายเต็มปีจาก 4 สาขาใหม่ที่เปิดปีก่อน และยอดขายบางส่วนจาก 5-6 สาขาใหม่ที่เปิดปีนี้) อีกทั้งยังเกิดผลประหยัดต่อขนาดจากการมีจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นและคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น
  • เรายังชอบ TNP ในฐานะที่เป็นหุ้นค้าปลีกขนาดเล็กที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ในระยะยาว และยังเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกโดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 33% จากราคาเป้าหมายปี 2567 ที่หุ้นละ 4.50 บาท (อิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปีที่ 21x เช่นเดิม) และล่าสุดบริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H67 หุ้นละ 0.0425 บาท (XD 19 ส.ค. และจ่ายเงินปันผล 5 ก.ย. 67) คิดเป็น Yield 1.3% ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ "ซื้อ" โดยเทคนิคมีแนวรับ 3.30/3.22 บาท และแนวต้าน 3.52/3.60 บาท
  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อแย่กว่าคาด, แผนขยายสาขาต่ำกว่าคาด ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลการรักษาของลูกค้าที่มาใช้บริการ (S) รวมทั้งการมีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นของบริษัทเกิน 50% (G)
 
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก TNP_Stock Note 240806_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5