ก่อนไปคิดอะไร
ผลการดำเนินงาน 4Q66 จะเป็นยังไง หลัง 3Q66 TNP มีกำไรสุทธิ 34 ลบ. ต่ำกว่าคาด โดยหดตัว 11%QoQ ตามผลฤดูกาล และหดตัว 9%YoY โดยแม้ 3Q66 จะมีการรับรู้ยอดขายจากสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4 แห่ง (ไตรมาสนี้มีเปิดสาขาเพิ่ม 1 แห่ง) แต่ถูกหักล้างบางส่วนด้วยยอดขายสาขาเดิมที่หดตัว 2.4%YoY หลังมีฐานสูงปีก่อนจากมาตรการคนละครึ่งเฟส 5 (ใช้จ่ายได้คนละไม่เกิน 800 บาทช่วง 1 ก.ย.-31 ต.ค. 65) จึงทำให้ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นเพียง 4.8%YoY อีกทั้งยังถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็น 16.3% จาก 16.9% ใน 3Q65 เพราะบริษัทไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังราคาขายสินค้าได้ทันที
หลังไปได้อะไร
ผู้บริหาร TNP คาด 4Q66 ยอดขายจะปรับตัวดีขึ้น QoQ เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ของการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดีขึ้นหลังรัฐบาลเปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ดี บริษัทมีการปรับลดแผนขยายสาขาปีนี้เหลือ 4 แห่ง จากต้นปีที่ตั้งไว้ 5 แห่ง โดยใน 9M66 เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่งใน 4Q66 (คาดเปิดช่วง ธ.ค 66 ซึ่งเป็นสาขาที่มีขนาด 1,000 ตร.ม. ใกล้แหล่งท่องเที่ยว 1 แห่ง และสาขาขนาด 300 ตร.ม. อีก 1 แห่ง) ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้มีสาขารวม 46 แห่ง เพิ่มจากปีก่อนที่มี 42 แห่ง
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ แจกเงินดิจิทัล คาดจะเห็นเป็นรูปธรรมใน 2H67 โดยมองจะส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรง ทั้งนี้ TNP มีสาขากระจายครอบคลุมภาคเหนือตอนบน ซึ่งคาดลูกค้าจะสะดวกและสามารถเข้ามาใช้เงินดิจิทัลได้ในทุกสาขา
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
แม้เราคาด 4Q66 TNP จะมีกำไรที่ดีสุดของปีนี้ โดยเติบโต QoQ ตามผลฤดูกาล แต่จะยังทรงตัว YoY จากฐานยอดขายปีก่อนที่ยังสูงเพราะเดือน ต.ค. 65 ยังได้อานิสงส์บวกจากคนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งเมื่อบวกกับ กำไรสุทธิ 9M66 คิดเป็น 65% ของประมาณการทั้งปีซึ่งต่ำเกินไป เนื่องจากศักยภาพกำไรอ่อนแอ่กว่าคาดหลังไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนสินค้าได้ทันที จึงทำให้เราปรับลดประมาณการกำไร โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2566 TNP จะมีกำไรสุทธิ 149 ลบ. ทรงตัว YoY แต่จะพลิกเติบโต 6%YoY ในปี 2567 จากกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีแผนเปิดต่อเนื่องราวปีละ 4-5 แห่ง
เรามอง TNP เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกโดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลที่กำลังทยอยออกมา ซึ่งคาดจะช่วยหนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานและเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นให้ปรับตัวดีขึ้นได้ในระยะถัดไป (ในประมาณการของเรายังไม่รวม Upside จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ) เมื่อบวกกับ การมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยสิ้น 3Q66 ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและมีฐานะเงินสดสุทธิราว 69 ลบ. อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside น่าสนใจจากกรอบราคาเป้าหมายปี 2567 ที่หุ้นละ 20-4.60 บาท (อิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปีที่ 21-23x เช่นเดิม) กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “หาจังหวะซื้อ”
ความเสี่ยงสำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อแย่กว่าคาด, แผนขยายสาขาต่ำกว่าคาด
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม TNP_Stock Note 231009_T