PDF Available  
Stock Note

Stock Note - KLINIQ บมจ. เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม

By ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล|14 Nov 25 11:41 AM
สรุปสาระสำคัญ

แม้ปีนี้ KLINIQ จะมีกำไรเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แต่ยังเติบโตได้ YoY ต่อเนื่องและดีสุดในกลุ่มหุ้นคลินิกเวชกรรมด้านผิวหนังความงามและศัลยกรรม ซึ่งสะท้อนถึงการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มาถูกทางด้วยการเพิ่มบริการใหม่และขยายสาขาภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อเจาะลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีฐานะการเงินแกร่ง โดยมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนต่ำ 0.4 เท่า, เงินสดในมือราว 658 ลบ. และ CFO ปีละ 500 ลบ. จึงเพียงพอรองรับแผนลงทุนและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำ “Outperform” โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2569 วิธี DCF (อิง WACC 7.7% และการเติบโตระยะยาว 1%) อยู่ที่หุ้นละ 30 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H68 หุ้นละ 0.79 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.3%

ก่อนไปคิดอะไร

  • บริษัทมีมุมมองผลการดำเนินงาน 4Q68 และเป้าหมายการเติบโตของปี 2568 อย่างไร หลัง 3Q68 มีกำไรสุทธิ 79 ลบ. (ต่ำกว่าตลาดคาด 12%) เติบโต 6.3%YoY โดยแม้รายได้รวมจะเติบโต 17%YoY หลักๆ เกิดจากรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจาก 3Q67 จำนวน 10 แห่ง (แบ่งเป็น The Klinique 1 แห่ง, L.A.B.X 4 แห่ง, KLINIQ Spa 1 แห่ง และ L Clinic 4 แห่ง) อีกทั้งรับรู้รายได้จากศูนย์ศัลยกรรมที่เพิ่มขึ้น 22%YoY แต่ถูกหักล้างด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็น 49.4% จาก 51.5% ใน 3Q67 หลังมีการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากแบรนด์ A.B.X และศูนย์ศัลยกรรมซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำ ส่วน SG&A/Sales ที่ลดลงเป็น 37.6% จาก 39.2% ใน 3Q67 จากคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นถูกหักล้างด้วย Effective tax rate ที่สูงขึ้นเป็น 21.0% จาก 18.0% ใน 3Q67 เนื่องจากสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงทำให้อัตรากำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 9.0% ลดลงจาก 9.9% ใน 3Q67

หลังไปได้อะไร

  • ผู้บริหาร KLINIQ ยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.5 พันลบ. เติบโต 15-20%YoY แรงหนุนจากการรับรู้รายได้สาขาใหม่ โดยปีนี้ยังคงแผนขยายสาขาราว 10 แห่ง (9M68 ขยายสาขาแล้ว 7 แห่ง) ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้คาดมีสาขารวม 82 แห่ง เพิ่มจาก 72 แห่งในปีก่อน ส่วนยอดขายสาขาเดิมคาดยังเติบโตได้ตามกระแสความต้องการดูแลตัวเองที่มีมากขึ้นและการเพิ่มบริการใหม่ๆ ขณะที่ 4Q68 มองจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นตามผลฤดูกาล ส่วนแผนสร้าง รพ. ศัลยกรรมเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เติบโตดีขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบสัญญา โดยคาดใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จสำหรับเปิดดำเนินการได้ภายใน 2 ปี นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทยังจัดตั้งบ.ย่อยเพื่อผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมและเครื่องสำอางซึ่งคาดจะเริ่มดำเนินการต้นปีหน้า โดยเฟสแรกจะวางจำหน่ายในร้านค้าของบริษัทและช่องทางออนไลน์ก่อน ซึ่งหากได้รับการตอบรับดีคาดจะเป็นอีกปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาว
  • แม้ 4Q68 คาดกำไรจะดีขึ้น QoQ และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการปรับภาพลักษณ์ต้อนรับปีใหม่และบริษัทมักมีการจัดทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย อีกทั้งยังจะรับรู้รายได้จากการเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลการดำเนินงานของศูนย์ศัลยกรรมคาดจะดีขึ้นตามลำดับ แต่คาดกำไร 4Q68 มีโอกาสอ่อนตัว YoY จากฐานปีก่อนสูงและมีอัตราภาษีจ่ายจริงปีนี้สูงขึ้นจากสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อบวกกับ กำไรสุทธิ 9M68 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปีซึ่งต่ำเกินไปจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด เราจึงปรับลดประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2568 จากเดิมราว 4% ส่งผลให้ภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2568 KLINIQ จะมีกำไรสุทธิ 343 ลบ. เติบโต 6.5%YoY และจะเติบโตต่อ 12%YoY ในปี 2569 แรงหนุนจากกระแสดูแลสุขภาพและภาพลักษณ์ที่มีมากขึ้นในทุกเพศทุกวัย การเพิ่มบริการใหม่ๆ และขยายสาขาต่อเนื่อง   
  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ มีภาวะการแข่งขันในธุรกิจมีสูง, พฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีการรักษาดูแลความงามเปลี่ยนแปลงเร็ว ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลการรักษาของผู้มาใช้บริการ (S) รวมทั้งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นของบริษัทเกิน 50% (G)
Stocks Mentioned
KLINIQ.BK
Author
Slide2
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5