แม้ปีนี้ KLINIQ จะมีกำไรเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แต่ยังเติบโตได้ YoY ต่อเนื่องและดีสุดในกลุ่มหุ้นคลินิกเวชกรรมด้านผิวหนังความงามและศัลยกรรม ซึ่งสะท้อนถึงการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มาถูกทางด้วยการเพิ่มบริการใหม่และขยายสาขาภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อเจาะลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีฐานะการเงินแกร่ง โดยมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนต่ำ 0.4 เท่า, เงินสดในมือราว 658 ลบ. และ CFO ปีละ 500 ลบ. จึงเพียงพอรองรับแผนลงทุนและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำ “Outperform” โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2569 วิธี DCF (อิง WACC 7.7% และการเติบโตระยะยาว 1%) อยู่ที่หุ้นละ 30 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H68 หุ้นละ 0.79 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.3%
ก่อนไปคิดอะไร
หลังไปได้อะไร