Stock Note

Wealth Stock Note – III

24 Feb 23 9:00 AM
StockNote-20240912005910

ก่อนไปคิดอะไร

ปี 2566 ตั้งเป้าการเติบโตอย่างไร หลัง 4Q65 III มีกำไรสุทธิ 418 ลบ. เติบโต 267%YoY แต่หากไม่รวมรายการพิเศษที่บันทึกไตรมาสนี้ หลักๆ คือกำไรพิเศษปรับมูลค่าเงินลงทุนใน Asia GSA (M) 322 ลบ. และตั้งสำรองหนี้สูญสายการบินแห่งหนึ่ง 52 ลบ. จะมีกำไรปกติ 169 ลบ. เติบโต 47%YoY โดยแม้รายได้รวมลดลง 45%YoY ตามการลดลงของรายได้ทุกธุรกิจหลังมีปริมาณและค่าขนส่งลดลง นำโดย Logistics (-59%YoY), Sea freight (-44%YoY), Air freight (-42%YoY) และ Chemical (-18YoY) แต่ยังชดเชยได้ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นหลังบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น จึงหนุนให้ปี 2565 III มีกำไรปกติราว 551 ลบ. เติบโต 48%YoY (แต่หากรวมรายการพิเศษสุทธิทั้งปี 2565 III จะมีกำไรสุทธิ 796 ลบ. เติบโต 111%YoY)

หลังไปได้อะไร

ผู้บริหาร III ตั้งเป้าปี 2566 เติบโต 15-20%YoY จาก Inorganic เป็นหลัก ขณะที่ Organic มองจะมาจากธุรกิจ Air freight ซึ่งคาดมีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้น หลังมีพื้นที่ระวางสินค้าเพิ่มขึ้นจากจำนวนเที่ยวบินที่ฟื้นตัว ส่วน Logistics มีแผนขยายลูกค้าเพิ่มในกลุ่มที่มีศักยภาพเติบโต (อาทิกลุ่ม Green Energy, ยาและเวชภัณฑ์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น) ควบคู่กับบริหารต้นทุน และ Chemical จะขยายคลังสินค้าเคมีเพิ่มอีก 3 พัน ตร.ม. ขณะที่ Sea freight จะพยายามประคองผลงานจากการขยายลูกค้าทดแทนค่าระวางที่ลง

ปี 2566 III คาดส่วนแบ่งกำไรเงินทุนจะเติบโตเด่น หลักๆ จากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ANI เพิ่มขึ้นหลังสิ้นปีก่อนได้อนุมัติให้บ.ย่อย ANI ซื้อหุ้นอีก 80% ของ ASIA GSA (M) จากที่มีอยู่เดิม 20% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก AOTGA เพิ่มขึ้นหลังการให้บริการด้านกราวด์เซอร์วิสในสนามบินภูเก็ต และสนามบินดอนเมือง มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน

เพื่อสะท้อนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มปีจาก ASIA GSA (M) หลัง ANI เข้าไปถือหุ้นทั้งหมด 100% ซึ่งยังไม่อยู่ในประมาณการเดิม เราจึงมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2566 III จะมีกำไรปกติ 681 ลบ. เติบโต 23.6%YoY (แต่กำไรสุทธิจะลดลง 4%YoY จากปี 2565 มีรายการพิเศษสุทธิราว 245 ลบ.)

แม้เราประเมินกรอบราคาเป้าหมายปี 2566 ที่หุ้นละ 16.90-17.70 บาท (อิงค่าเฉลี่ยย้อนหลังล่าสุด PER 20-21x และอิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจาก RO และใช้สิทธิแปลงสภาพ III-W1 เต็มจำนวน) ยังมี Upside เกิน 15% และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H65 หุ้นละ 0.40 บาท (XD 24 เม.ย.) คิดเป็น Yield 2.9% อีกทั้งมีสิทธิรับจัดสรรหุ้น ANI ซึ่ง III จะยื่นไฟลิ่ง 2Q66 และคาดเสนอขาย IPO 3Q66 แต่ช่วงสั้นดีมานด์และค่าระวางยังมีความเสี่ยงถูกกดดันจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “หาจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ต้องไล่ราคา” เพื่อเพิ่มแต้มต่อการลงทุน ทั้งนี้เทคนิคให้แนวรับที่ 13.30/12.80 บาท

ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน, การล็อกดาวน์เข้มงวดของจีนเพื่อคุมการระบาดของ COVID-19, การชะลอตัวของเศรษฐกิจ และความผันผวนของค่าระวาง

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5