Keyword
Stock Note

Stock Note – KCE 03/07/2023

3 Jul 23 9:55 AM
THUMNAIL4-20240912011206
CHIP

ก่อนไปคิดอะไร

  • คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของ KCE จะฟื้นตัวเล็กน้อยใน 2Q66 หลังผลการดำเนินงาน 1Q66 มีกำไรสุทธิที่ 345 ล้านบาท ลดลง 31% QoQ และ 42% YoY เนื่องจากผลกระทบความผันผวนของค่าเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยยอดขายในรูปสกุลเงินดอลล่าร์ลดลง 6.9% QoQ ขณะที่ Gross margin ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างทองแดงที่สูง หลังจากมีการสต็อคไว้ในช่วงค่าเงินบาทอ่อนในช่วงปลายปี 65

หลังไปได้อะไร

  • เราคงมุมมองเดิมที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q66 อยู่ที่ 360 ล้านบาท ฟื้นตัวเล็กน้อย 3% QoQ โดยแม้ว่ายอดขายใน 2Q66 คาดว่าจะ Flat QoQ แต่ยังคาดว่าจะมี Upside ใน 2H66 เนื่องจากเราเริ่มเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ทั่วโลกในช่วงเดือนเม.ย. - พ.ค. 66 อาทิ ทวีปยุโรป (47% ของยอดขาย PCB ของ KCE) ที่มียอดขายเติบโต +17.9% YoY ประเทศสหรัฐฯ (21% ของยอดขาย PCB ของ KCE) ที่มียอดขายรถยนต์เติบโต +8.0% YoY และจีน (12% ของยอดขาย PCB ของ KCE) ที่เติบโตถึง +61.2% YoY ขณะที่ต้นทุนราคาทองแดงเริ่มมีการปรับตัวลดลง 5.6% QoQ ใน 2Q66 QTD นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 2.4% QoQ ใน 2Q66 ก็คาดว่าจะส่งผลบวกต่อ Gross margin โดยรวมใน 2Q66 โดยเราคาดว่า Gross margin จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ใน 2Q66 จาก 19.6% ใน 1Q66
  • คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H66 จะเติบโตจากการขยายกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ Special grade PCB (HDI, 30% ของยอดขายรวม) ที่มี Margin สูงมากขึ้นขึ้น ซึ่ง HDI เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในพวก Break system ในรถยนต์ EV และผลิตภัณฑ์ Radar/Lidar เป็นต้น โดยปัจจุบันมี เครื่อง Laser drill สำหรับใช้กับการผลิต HDI อยู่ 11 เครื่อง ซึ่งผลิตเต็มกำลังอยู่ และยังมี Demand ที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันมีการเพิ่มเครื่อง Laser Drill เข้าไปอีก 2 เครื่อง เรียบร้อยแล้ว ขณะที่เครื่อง Laser Drill อีก 2 เครื่องจะมาถึงในเดือนก.ค. 66 ซึ่งโดยรวมจะสามารถเพิ่ม Capacity ของ HDI ได้อีก 300,000-400,000 ตารางฟุตต่อไตรมาส หากติดตั้งทั้งหมด 4 เครื่อง ซึ่งจะช่วยทำให้ overall sale และ Gross margin เพิ่มขึ้นได้ใน 2H66
  • กลยุทธ์หลัก ยังคงเป็นขยายกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์ High-end ที่มี Margin สูง และสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ คาดว่าจะมีการผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วง 4Q67

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน

  • เรายังมองบวกกับ KCE เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะ Bottom out แล้วใน 1H66 และคาดว่าจะเติบโตในช่วง 2H66 จาก Capacity ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนที่คาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะราคาทองแดงในตลาดโลก และค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง (สัดส่วน 7% ของต้นทุนรวม ใน 1Q66 จาก 6.7% ใน 4Q65) สะท้อนการปรับลดลงของราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติในปัจจุบัน ขณะที่ระยะกลางถึงยาว จะได้ประโยชน์จากจุดเด่นของ KCE ที่เป็นผู้ผลิตแผงวงจรรายใหญ่ TOP10 ของโลก ให้กับผู้ผลิตรถยนต์โดยเฉพาะในประเทศยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งจะได้รับผลบวกจากปริมาณความต้องการแผงวงจรในรถยนต์เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม อย่าง Chin-poon Industrial, TTM Technologies, CMK Crop และ Meiko ต่างก็เห็นสัญญาณการฟื้นตัวแล้วเช่นกัน
  • ความเสี่ยง เศรษฐกิจโลกหากถดถอยรุนแรงมากกว่าคาดจะกระทบต่อปริมาณความต้องการแผงวงจร PCB โดยรวม ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่าเงินบาทจะกระทบอัตราทำกำไรได้
  • ราคาหุ้น KCE ปรับฐานลงมา (59% จาก Peak ช่วงปลายปี 2564) ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ -1SD ของ PE mean 5 ปี ของ KCE แล้ว คาวด่าสะท้อนปัจจัยลบไปค่อนข้างมากแล้ว เราแนะนำให้ทยอยสะสม เพื่อรอการฟื้นตัวของผลประกอบการตั้งแต่ 2H66 เป็นต้นไป โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 61 บาท อิง PE 30x ซึ่งเท่ากับ PE mean 5 ปี ของ KCE

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  KCE_Stock Note 230703_T (1)

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5