บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม

ท่องเที่ยว (โรงแรม) – 4 สิ่งที่น่าจับตาในปี 2567

28 Mar 24 9:00 AM
Sectors_thumbnail_Artboard 13 Tourism

สำหรับกลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม) เรามองว่ามี 4 สิ่งที่น่าจับตาในปี 2567 ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2567 ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของตลาดจีนเป็นหลัก 2) การเพิ่มขึ้นของ ARR เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ RevPar เติบโต 3) ผู้ประกอบการโรงแรมจะกลับมาขยายการลงทุนอีกครั้ง โดยขยายไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น และ 4) เราคาดว่ากำไรของผู้ประกอบการโรงแรมมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 เรามีมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มที่จะกลับคืนสู่ระดับปกติในปี 2567 อย่างไรก็ดี กำไรยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หุ้นเด่นของเรา คือ ERW และ MINT (เพิ่มเข้ามาเป็นหุ้นเด่น)

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2567 ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของตลาดจีนเป็นหลัก เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยไว้ที่ 35 ล้านคนในปี 2567 เพิ่มขึ้น 24% YoY สู่ 87% ของระดับเก่อนเกิดโควิด-19 โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวในตลาดนักท่องเที่ยวจีน (ที่ 8 ล้านคน, 70% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19) ในขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ (ไม่รวมประเทศจีน) จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะเติบโตในระดับที่เป็นปกติมากขึ้นที่ 27 ล้านคน (94% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19) เรามองว่าการมาตรการยกเว้นวีซ่าในปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้นจาก 34% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในเดือนส.ค. 2566 สู่ 50% ในเดือนธ.ค. 2566 และ 63% ในเดือนก.พ. 2567 อุปสงค์ที่แข็งแกร่งเห็นได้จากอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (load factor) ในเส้นทางการบินจีน-ไทยของ AAV ที่เพิ่มขึ้นจาก 90% ในเดือนม.ค. สู่ ~98% ในระหว่างเดือนมี.ค. และยอดจองตั๋วล่วงหน้าระดับสูงในระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.

การเพิ่มขึ้นของ ARR เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ RevPar เติบโต เมื่ออิงกับเป้าหมายปี 2567 ของผู้ประกอบการโรงแรม รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะเติบโตในระดับปกติเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ RevPar เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากฐานต่ำในปี 2565 การเพิ่มขึ้นของค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) จะเป็นแรงผลักดันสำคัญ เรายังคงมองเห็นโอกาสที่ ARR จะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ARR ในประเทศไทยยังตามหลังภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมยังมุ่งเน้นการปรับปรุง/อัพเกรดโรงแรมเพื่อเพิ่ม ARR ด้วย

การกลับมาขยายการลงทุน โดยขยายไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น ข้อมูลที่เรารวบรวมได้แสดงให้เห็นว่า งบลงทุนรวมทั้งหมดในปี 2566 ของผู้ประกอบการโรงแรมทั้งหมด 4 รายเพิ่มขึ้น 14% YoY และเป้าหมายของผู้ประกอบการเหล่านี้บ่งชี้ว่างบลงทุนทั้งหมดในปี 2567 จะมีจำนวน ~4.1 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 75% จากปี 2566 ในมุมมองของเรา สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากการดำเนินงานและกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นจะช่วยให้คลายความกังวลทางการเงินจากการขยายธุรกิจได้ เราสังเกตเห็นว่าผู้ประกอบการโรงแรมกำลังขยายธุรกิจในต่างประเทศเพื่อเพิ่มการเติบโตในระยะยาวและกระจายธุรกิจไม่ให้กระจุกตัว

กำไรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงานและผลประกอบการของผู้ประกอบการโรงแรมฟื้นตัวแกร่งในปี 2565 และเติบโตก้าวกระโดดอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 เราคาดว่ากำไรจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยกำไรของกลุ่มฯ จะเติบโตเฉลี่ย 27% YoY โดยได้รับการสนับสนุนจาก RevPar ที่เติบโต 8% YoY ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับปกติ หลังจากเติบโต 53% YoY ในปี 2566

หุ้นเด่น: ERW และ MINT (เพิ่มเติม) ราคาหุ้น ERW ปรับตัวลดลง 12% YTD สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบที่ตลาดมีต่อการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ และการที่กำไรจะกลับมาเติบโตในระดับปกติในปี 2567 ปัจจุบันหุ้น ERW ซื้อขายที่ PE ปี 2567 ที่ระดับใกล้ -1SD ของ PE เฉลี่ยในอดีต ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเด็นลบสะท้อนในราคาหุ้นไปมากพอสมควรแล้วและเรามองว่าตอนนี้เป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสมได้ เราเลือก MINT เพิ่มเข้ามาเป็นหุ้นเด่น เนื่องจากกำไรของบริษัทจะมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งมากขึ้นใน 2Q67 เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นในยุโรป ซึ่งจะมีอีเว้นท์พิเศษด้วย เช่น การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส

ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความต้องการเดินทาง การขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และขยะ ที่มีประสิทธิภาพ (E)

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  TOURISM240328_T 1

We see four things for the Tourism sector (hotel) to look forward to in 2024: 1) a recovery in the China market, which Thai tourism relies heavily on, 2) an ARR increase, which will fuel RevPar growth, 3) the resumption of expansion with a greater overseas presence and 4) a continued uptrend in earnings in 2024. We take a neutral stance on the sector, as earnings growth will be normalizing in 2024. At the same time, the earnings uptrend is intact, tagging Thai tourism recovery. ERW remains a top pick and we now add MINT.

Thai tourism tied to China market recovery in 2024. We maintain our forecast of 35mn international tourist arrivals in 2024, up 24% YoY, to 87% of pre-COVID-19. This is spurred by recovery in the China market (at 8mn arrivals, 70% of pre-COVID-19 level); other source markets (ex-China) will continue to grow, but at a more normal growth with 27mn arrivals (94% of pre-COVID-19 level). The current visa waiver met with strong response, with tourists from China climbing from 34% of pre-COVID-19 in August 2023 to 50% in December 2023 and 63% in February 2024. Strong demand is being seen via a higher load factor on AAV’s China-Thailand routes, rising from 90% in January to ~98% in March, with high forward bookings for April-May.

Higher ARR = RevPar growth. Based on 2024 guidance from hoteliers, RevPar will continue to grow, but at a normalized rate compared to 2023 when it leapt strongly off 2022’s low base. RevPar growth will be driven primarily by ARR increase. We see room for ARR to continue to move up as Thailand lags other regions. Additionally, hoteliers are renovating/upgrading hotels for ARR uplift.

Resuming expansion with more overseas presence. Our data shows a 14% increase in total capex in 2023 for all four hoteliers; their guidance suggests total committed capex in 2024 of ~Bt41bn, a jump of 75% from 2023. In our view, the more robust financial health from improving operations and earnings should calm concerns about the financing of the expansion. We also notice that hoteliers are expanding their overseas presence to enhance long-term growth and to diversify business concentration.

Earnings continuing to trend up. Hotelier operations and earnings showed a solid rebound in 2022 and leapt in 2023. We expect earnings to continue to trend up in 2024 with 27% average sector earnings growth, backed by average RevPar growth of 8%, normalizing from 53% in 2023.

Top picks: ERW and MINT (added). ERW’s share price is down 12% YTD, an indication of market pessimism about its recent overseas investment in Japan and the normalizing earnings growth in 2024. ERW is trading at 28x 2024PE,
nearly -1SD, suggesting negatives have been largely priced in and we see this as an opportunity to accumulate. We now add MINT to our top pick list. MINT’s earnings will gain stronger momentum in 2Q24 due to high season in Europe with a plus from special events, UEFA Euro 2024 and Paris 2024 Olympics.

Risks. Key risks are a global economic slowdown that would hurt consumer spending and willingness to travel, workforce shortage and cost inflation that would damage profitability. We see ESG risk as effective environmental management of greenhouse gases, energy, wastewater, and waste (E).

Click here to read and/or download file  TOURISM240328_E 1
Most Read
Related Articles
Most Read