Keyword
Food & Beverage
PDF Available  
บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม

เครื่องดื่ม - การแข่งขันเข้มข้นขึ้น

By เติมพร ตันติวิวัฒน์|11 Apr 25 8:26 AM
สรุปสาระสำคัญ

ในขณะที่อากาศเริ่มร้อนมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังก็ร้อนแรงมากขึ้นเช่นเดียวกัน OSP กลับมาวางจำหน่าย M-150 ฝาเหลือง ราคาขวดละ 10 บาทอีกครั้ง โดยปรับสูตรใหม่เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 4% เป็น 50% ซึ่งเป็นระดับที่บริษัทเคยทำได้ก่อนปรับราคาขึ้น ขณะที่ CBG ซึ่งมีคาราบาวแดงเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 3% สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 29% จาก 26% ในปี 2567 เราคาดว่าทั้งสองบริษัทจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เล็กน้อย แต่จะทำได้ไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นทั้งสองบริษัทปรับตัวลดลง โดย CBG ลดลง 25% และ OSP ลดลง 36% สะท้อนความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการแข่งขันที่สูงขึ้นและการบริโภคที่อ่อนแอลง เรามองว่า CBG จะยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยที่เราใช้สมมติฐานว่าส่วนแบ่งการตลาดของ CBG จะเพิ่มขึ้น 1.50% ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ OSP แม้ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น แต่จะสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไร ความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มเครื่องดื่ม คือ การบริโภคที่อ่อนแอในสถานการณ์ที่การแข่งขันเข้มข้น และผลกระทบเล็กน้อยจากภัยพิบัติ ดังนั้นเราจึงปรับ valuation ของทั้ง CBG และ OSP และคงคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ OUTPERFORM สำหรับ CBG (ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 80 บาท/หุ้น) และ NEUTRAL สำหรับ OSP (ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 16 บาท/หุ้น)

คาดมูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปี 2568 เติบโต 2.7% SCB EIC คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 2.75 หมื่นลบ. (+2.7%) ในปี 2568 เติบโตในอัตราชะลอตัวลงจากปี 2567 ที่ 4.2% แต่ในแง่มูลค่าตลาดจะทำระดับสูงสุดใหม่ SCB EIC มองว่ากิจกรรมในปี 2568 เช่น กิจกรรมการก่อสร้างที่ยังมีต่อเนื่องทั้งภาครัฐและเอกชน และ e-sport จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนความต้องการในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของตลาดเครื่องดื่ม คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนในสภาวะที่การแข่งขันสูงขึ้น เรามองว่าสัดส่วนมูลค่าตลาดของเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 10 บาท จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่สูงกว่า 50% ในปี 2568 (50% ในปี 2567) เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการซื้อที่ลดลง และการกลับมาเปิดตัว M-150 ขวดละ 10 บาทอีกครั้ง ในขณะที่สัดส่วนมูลค่าตลาดของเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 12 บาท จะลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 40% (40% ในปี 2567) เพราะได้รับแรงกดดันจากความสามารถในการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง

 

การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป เราเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในปี 2568 จะเริ่มเข้มข้นมากขึ้นตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป เมื่อ OSP จำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 ฝาเหลืองขวดละ 10 บาท สูตรใหม่ ในช่องทางร้านค้าแบบดั้งเดิม (65% ของการจำหน่ายทั้งหมด) อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 4% เป็น 50% ในช่วงปลายปี 2568 หลังจากส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศของบริษัททำจุดต่ำสุดใหม่ในปี 2567 ที่ 45% ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่ส่วนแบ่งการตลาดของ OSP สูงกว่า 50% เกิดขึ้นใน 1Q65 ซึ่งในตอนนั้น OSP ยังไม่ได้ปรับราคาขายเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทเพิ่มขึ้น ดังนั้นเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ในครั้งนี้จึงค่อนข้างท้าทาย ขณะที่ CBG จะยังคงใช้กลยุทธ์การยืนราคาขายเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ขวดละ 10 ต่อไป โดยจะทำแคมเปญการตลาดและขยายช่องทางการจำหน่าย CBG ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 3% สู่ 29% หลังจากเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ 2.6% สู่ระดับสูงสุดใหม่ในปี 2567 โดยได้ประโยชน์จากความสามารถในการซื้อที่ลดลงของผู้บริโภคในช่องทางร้านค้าแบบดั้งเดิมและการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง เราเชื่อว่าทั้งสองบริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2568 แต่จะทำได้ไม่ถึงเป้าที่วางไว้ โดยเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 10 บาทจะยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการแข่งขันครั้งนี้

 

ในครึ่งแรกของปี 2568 เราชอบ CBG มากกว่า OSP เราคาดว่ามูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังรวมทั้งหมดในปี 2568 จะเติบโตเป็นเลขหลักเดียว โดยจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 10 บาทซึ่งคิดเป็น 50% ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหมด ในบรรดาคู่แข่งสองรายในกลุ่มนี้ เราชอบ CBG มากกว่า OSP ในครึ่งแรกของปี 2568 เพราะมีปริมาณการขายที่แข็งแกร่ง มีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการประหยัดต่อขนาด ในขณะที่ OSP จะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 10 บาท จะส่งผลทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง เราให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ OUTPERFORM สำหรับ CBG โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2568 เป็น 80 บาท/หุ้น ในขณะที่แนะนำ NEUTRAL สำหรับ OSP ด้วยราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 16 บาท/หุ้น

 

ความเสี่ยงที่สำคัญ การบริโภคที่อ่อนแอลง ผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ

 

Competition is heating up

As the weather heats up toward summer, so is competition in energy drinks. OSP is re-launching its Bt10/bottle yellow-cap M-150 with a recipe change to raise its market share by 4ppt to 50%, the pre-price increase level. CBG, with its flagship “Carabao Dang”, aims for a 3ppt gain to a new high of 29% from 26% in 2024. Though we expect both to miss targets, we do expect some small gain in market share. Share prices YTD are down, CBG by 25% and OSP by 36%, pricing in concerns over the stiffer competition and lower consumption. We expect CBG to gain in profitability from a gain in market share that we assume at 150bps. OSP on the other hand, will gain share, but profitability will be eroded. Concerns include weak consumption in a heated competitive climate, with some small effect from disasters. We have thus adjusted valuations for both CBG and OSP. We maintain our Outperform on CBG (2025TP of Bt80) and Neutral on OSP (2025TP of Bt16).

 

Energy drink market value to grow 2.7% in 2025. SCB EIC forecasts total value for the domestic energy drink market at Bt27.5bn (+2.7%) in 2025, slipping from 2024 growth of 4.2% but a new high in terms of value. It views that a more active 2025 in areas such as construction activity, both private and public, and in sporting events will support demand in the sector. Market risk includes substitute products and higher competition. We believe the proportion of market value for Bt10/bottle will rise to over 50% (50% in 2024) in 2025 in view of less affordability and the re-launch of the Bt10/bottle M-150; we expect the Bt12/bottle share will drop to below 40% (40% in 2024) in response to lower consumer affordability.  

 

Competition heating up from 2Q25. We believe domestic energy drink competition will become more intense from 2Q25 onward when OSP starts full distribution of its new recipe for yellow-cap Bt10/bottle M-150 to traditional trade channels (65% of its distribution) with an aggressive goal of total market share gain of 4 ppt to 50% at end-2025 after its domestic energy drink market share hit a new low in 2024 at 45%. Note that the last time OSP’s market share was above 50% was in 1Q22, when it had not yet raised the selling price on its flagship M-150, making this goal challenging. CBG will maintain its flagship “Carabao Dang” price at Bt10/bottle, employing marketing campaigns and expanded distribution channels. CBG aims for another 3ppt gain in market share to 29% after gaining 2.6ppt in 2024, a new high, benefiting from less affordability for traditional trade customers and strong distribution. We believe both will have a small market share gain in 2025 but expect both fail to reach targets. The Bt10/bottle size will remain the lead segment in this rivalry.

 

In 1H25 we prefer CBG. We expect total 2025 energy drink market value to grow in the single digits with higher competition in the Bt10/bottle segment, which accounts for 50% of the market. Of the two rivals, we prefer CBG in 1H25, backed by high sales volume with efficient cost management and economies of scale. OSP will need time to prove an uptrend in market share, as higher sales volume in this segment will eat into profitability. We have a tactical call on CBG of Outperform with adjusted 2025 TP of Bt80. We are Neutral on OSP with a 2025 TP of Bt16.

 

Key Risk. Weaker consumption, impact of natural disasters and law and regulatory changes.  

 

Download PDF Click > BEVERAGE250411_E.pdf

 

Author
Slide7
เติมพร ตันติวิวัฒน์

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาหารและเครื่องดื่ม และสินทรัพย์ดิจิทัล

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5