ยานยนต์ไร้คนขับไม่ใช่เรื่องที่ต้องตั้งคำถามว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของเวลาว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด เรากำลังยืนอยู่หน้าจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญซึ่งถือเป็นกระแสหลักของโลกในรอบทศวรรษที่จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปอย่างถาวร ปัจจัยเปลี่ยนเกมที่สำคัญคือการผสานพลังระหว่างข้อมูลมหาศาล ปัญญาประดิษฐ์ และหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยกดดันให้ต้นทุนฮาร์ดแวร์ลดลงและเพิ่มขีดความสามารถของระบบจนเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
สิ่งนี้นำไปสู่การเกิดขึ้นจริงของรถรับจ้างอัตโนมัติที่จะเข้ามาพลิกโฉมธุรกิจแท็กซี่และระบบขนส่งโลจิสติกส์เดิมด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าแรงงานมนุษย์ ในเชิงกลยุทธ์ ตลาดนี้มีลักษณะผู้ชนะกินรวบ โดยผู้ที่ครอบครองความได้เปรียบคือบริษัทที่มีระบบนิเวศทางธุรกิจครบวงจร ตั้งแต่ชิป ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงแพลตฟอร์มให้บริการ
แม้ระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนสูง แต่นักลงทุนควรมองข้ามไปที่ศักยภาพการเติบโตระยะยาวที่มหาศาล โดยให้ความสำคัญกับความชัดเจนของกฎระเบียบภาครัฐและความสามารถในการทำกำไรเป็นเกณฑ์หลักในการตัดสินใจ นี่คือโอกาสการลงทุนที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่ต้องการเกาะกระแสการเติบโตแห่งอนาคต
ธุรกิจนี้จะเข้าสู่ช่วงจุดเปลี่ยนและช่วงเห็นผลการเติบโตในช่วง 2025–2030 โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) เซนเซอร์ถูกลง 50–70%, 2) ชิปประมวลผลทรงพลังขึ้นแต่ใช้พลังงานลดลง, 3) กฎระเบียบเริ่มเปิดทาง L3/L4 บนมอเตอร์เวย์ และ 4) OEM ทั่วโลกเร่งปิดดีลพันธมิตรด้าน software มากขึ้น กลยุทธ์หลักคือ เลือกน้ำหนักตามระดับความเสี่ยง แล้วถือเป็นการลงทุนตามการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรม โดยผู้ชนะในยุคยานยนต์ไร้คนขับและ Robotaxi จะเกิดขึ้นจากสเกลข้อมูลและความเร็วในการพัฒนา software มากกว่าการผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม
หุ้นที่เราแนะนำได้แก่ TSLA, NVDA, UBER, LAZR, MBLY, GOOG, Horizon Robotics รวมถึง ETF อย่าง DRIV, IDRV, KARS