Earnings Brief - Coca-Cola (KO.US) กำไรไตรมาสแรกแกร่ง คงเป้าหมายทั้งปี แม้เผชิญสงครามการค้า
Earnings Result
Coca-Cola รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2025 ดีกว่าที่คาด โดย EPS ปรับแล้วอยู่ที่ 73 เซนต์ และรายได้ 11.22 พันล้านดอลลาร์ พร้อมคงเป้าหมายทั้งปี แม้เผชิญต้นทุนสูงจากสงครามการค้าและความท้าทายในตลาดอเมริกาเหนือ CEO James Quincey ระบุว่ากลยุทธ์ของบริษัทช่วยให้ผ่านสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้ และเน้นติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคมากกว่าความรู้สึก ขณะที่ยอดขายเติบโตดีในตลาดเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย และบราซิล โดยเฉพาะ Coke Zero Sugar ที่โต 14%
กำไรยังโต แม้รายได้ลดลง
รายงานผลประกอบการเงินแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัท The Coca-Cola Company ในไตรมาสแรกของปี 2025 รายงานระบุว่ารายได้สุทธิลดลง 2% แต่รายได้จากการดำเนินงานเติบโตขึ้น 6% รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 71% และรายได้จากการดำเนินงานที่เทียบเท่าและไม่มีผลกระทบจากสกุลเงินเพิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 5% YoY และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.73 ดอลลาร์ สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 0.71 ดอลลาร์
การเติบโตของรายได้ Coca-Cola แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคท่ามกลางการปรับโครงสร้าง
- เอเชียแปซิฟิก: ปริมาณการขายต่อหน่วยเติบโต 6%, ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของทุกหมวดหมู่เครื่องดื่มระดับโลก, การเปลี่ยนแปลงรายได้จากการปรับราคาและสัดส่วนของสินค้า (Price/mix) ลดลง 1%, รายได้จากการดำเนินงานลดลง 5%, แต่รายได้จากการดำเนินงาน (ปรับ FX และรายการพิเศษ) โต 7% - การลงทุนในการผลิตขวด: ปริมาณการขายต่อหน่วยลดลง 17% เนื่องจากการรีแฟรนไชส์การดำเนินงานการผลิตขวด, การเปลี่ยนแปลงรายได้จากการปรับราคาและสัดส่วนของสินค้า (Price/mix) เติบโต 3%, รายได้จากการดำเนินงานลดลง 24%, และรายได้จากการดำเนินงาน (ปรับ FX และรายการพิเศษ) ลดลง 21% - อเมริกาเหนือ: ปริมาณการขายต่อหน่วยลดลง 3%, การเปลี่ยนแปลงรายได้จากการปรับราคาและสัดส่วนของสินค้า (Price/mix) โต 8%, รายได้จากการดำเนินงานเติบโต 170%, และรายได้จากการดำเนินงาน (ปรับ FX และรายการพิเศษ) เติบโต 4% - โดยรวม Coca-Cola ยังคงได้ส่วนแบ่งมูลค่าในตลาดเครื่องดื่ม NARTD ทั่วโลก แม้จะมีการเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคและส่วนธุรกิจ
กำไรจากการดำเนินงานของ Coca-Cola แข็งแกร่งจากการบริหารต้นทุนและรายได้ออร์แกนิก
Coca-Cola รายงานอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Margin) ที่ 32.9% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานแบบเปรียบเทียบ (Comparable Operating Margin – non-GAAP) ที่ 33.8% โดยการเติบโตมาจากรายได้ออร์แกนิกที่เพิ่มขึ้น การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดสรรงบการตลาดตามช่วงเวลา และผลจากการปรับโครงสร้างการผลิต (refranchising bottling operations) แม้จะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (currency headwinds)
กระแสเงินสดลดลงจากดีล Fairlife แต่ฐานะการเงินของ Coca-Cola ยังแข็งแกร่ง
- กระแสเงินสดที่ใช้ในการดำเนินการคือ $5.2 พันล้าน, ส่งผลให้มี free cash flow ลบประมาณ $5.5 พันล้าน การลดลงนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการชำระเงินค่าพิจารณาที่มีเงื่อนไขที่ทำในไตรมาสร่วมกับการซื้อกิจการของ fairlife, LLC. - Free cash flow ที่ไม่รวมการชำระเงินค่าพิจารณาที่มีเงื่อนไขของ fairlife คือ $558 ล้าน - งบดุลรวมแสดงว่า บริษัทมีสินทรัพย์ปัจจุบันรวม $26.178 พันล้าน และสินทรัพย์รวม $101.716 พันล้าน - บริษัทมีหนี้สินปัจจุบันรวม $23.808 พันล้าน และหนี้สินรวม $74.962 พันล้าน - ส่วนของสินทรัพย์สุทธิของบริษัทที่เป็นของผู้ถือหุ้นของ The Coca-Cola Company คือ $26.202 พันล้าน, และสินทรัพย์สุทธิรวมคือ $27.754 พันล้าน
ภาพความเสี่ยง
ความเสี่ยงปัจจุบันที่บริษัทกำลังเผชิญหน้า ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว, การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น, การเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การค้าปลีก, ความไม่สามารถที่จะขยายธุรกิจในตลาดเกิดขึ้น, ความไม่สามารถดึงดูดคนที่มีความสามารถสูง, การขัดข้องของโซ่อุปทาน, ความไม่สามารถที่จะรวมธุรกิจที่ได้รับมา, ความล้มเหลวของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม, การไม่สงบของแรงงาน, ความกังวลที่เกี่ยวกับสุขภาพ, ความล้มเหลวในการเปลี่ยนเป็นดิจิทัล, ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์, และความเสี่ยงทางกฎหมายและการควบคุม
