ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากกระแสการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง และความคาดหวังว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากจากความกังวลเรื่องการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown)
บทสรุปสำหรับสัปดาห์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากกระแสการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง และความคาดหวังว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากจากความกังวลเรื่องการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown)
สัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเงิน 1) ในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีน 3) มีแรงซื้อในโลหะ 4) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยี 5) มีแรงซื้อในกลุ่ม Healthcare 6) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก
ภาพรวม – ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) แต่ตลาดมีแรงสนับสนุนจากกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี AI ต่อเนื่องทั้งในสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับกลุ่ม Healthcare ที่ฟื้นตัวหลังประเด็น Tariff เริ่มมีการยกเว้นให้กับบริษัทที่ลงทุนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed หลังตัวเลขแรงงานออกมาอ่อนแอ ทำให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่ยังทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (6 – 10 ต.ค.) เราแนะติดตาม 1) การปิดหน่วยงานรัฐบาลทำให้การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ (เช่น รายงานการจ้างงานประจำเดือน) ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ Fed และนักลงทุนต้องประเมินสถานการณ์โดยขาดข้อมูล (flying blind) หรือพึ่งพาข้อมูลจากภาคเอกชนแทน (Private Data) 2) รายงานการประชุม FOMC (Fed Minutes) ประจำเดือน ก.ย. 3) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan sentiment) 4) ตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนอย่าง ยอดค้าปลีก 5) ผลประกอบการ PepsiCo (PEP), Delta Air Lines (DAL), Levi Strauss (LEVI), Fast Retailing (9983.T)
เราประเมินว่าตลาดยังมีทิศทางปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดีประเมินว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดจะผันผวนได้มากขึ้นหลังตลาดมีความคาดหวังที่สูง โดยในสัปดาห์นี้เราคาดการณ์ว่าตลาดจะให้ความสำคัญกับปัจจัยมหภาคมากกว่าจุลภาคต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นที่ยังมีแนวโน้มเติบโตดีและมีปัจจัยให้เก็งกำไรต่อในสัปดาห์นี้ โดยแนะ DR อย่าง NVDA01, CATL23 และหุ้นต่างประเทศ PLTR, TSM, Galaxy Ent. (0027.HK)
