สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกเริ่มทรงตัว โดยเริ่มเห็นการชะลอตัวในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ที่เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แรงหนุนมาจากการลงทุนในกลุ่มเทคฯ และ AI ที่มีข้อตกลงของบริษัทขนาดใหญ่ ได้แก่AMD และ OpenAI อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นสร้างความผันผวนของค่าเงินเยน และผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่น ด้าน Fed Minutes เนื้อหาใกล้เคียงกับแถลงการณ์หลังประชุม โดยระบุกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อในช่วงที่เหลือของปี หลังตลาดแรงงานมีสัญญาณอ่อนตัวในบางกลุ่ม แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงขาขึ้น ด้านตลาด EM ทรงตัวเช่นกัน โดยจีนยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาว ก่อนกลับมาเปิดในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยรวมการเดินทางภายในประเทศจีน ช่วง Golden Week สูงกว่าคาด แต่การใช้จ่ายต่อหัวลดลงจากปีที่แล้ว ด้านการบริโภคภาคบริการโตแกร่ง เช่น โรงแรม, และกิจกรรมที่เน้นประสบการณ์ World Bank ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2025 ของจีน เป็น 4.8% จากประมาณการก่อนหน้าที่ 4.0% เนื่องจากผลการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศแข็งแรงกว่าคาด สำหรับตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น ก่อนลดลงมาต่ำกว่า 1300 จุด จากแรงกดดันในช่วงวันศุกร์จากหุ้น DELTA เข้าข่ายติดบัญชี Cash Balance ด้าน กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% กรรมการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายภายใต้ Policy space ที่จำกัด ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของไทยเดือน ก.ย. หดตัว -0.72% YoY หดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด และเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังกลุ่ม OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตนั้นในเดือน พ.ย. 1.3 แสนบาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าที่ตลาดกังวล อย่างไรก็ตามการประกาศข้อตกลงยุติสงครามอิสราเอล-ฮามาส กดดันราคาท้ายสัปดาห์
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) Fed Minutes ระบุกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อในช่วงที่เหลือของปี (2) กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยกิจกรรมเศรษฐกิจในช่วง National Day ระบุว่ายอดขายของธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารหลักเพิ่มขึ้น 2.7%YoY ขณะที่ จำนวนผู้คนในย่านการค้า 78 แห่งทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 8.8%YoY
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% โดยให้ความสำคัญกับ Policy space เป็นหลัก (2) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของไทยเดือน ก.ย. หดตัว -0.72% YoY ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน (3) World bank ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2025 เป็น 2.0% จากเดิม 1.8% โดยประเมินว่าไทยจะได้รับแรงกระตุ้นภายในจากนโยบายการคลังและโครงการลงทุนภาครัฐ
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.14% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.59% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 55 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 1.50% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ 1.18% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 317 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 1.7%WoW สู่ 65.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่ประชุม OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตใน พ.ย. 2025 เพียง 137kBD ต่ำกว่าซาอุฯ เคยส่งสัญญาณจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 2-3 เท่า ราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้น 3.1%WoW สู่ 3,975.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 99.35 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 152.9 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 32.7 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.13 หยวน