ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

ธนาคาร – ปรับประมาณการ NIM ปี 2567 เพิ่มขึ้น โดยใช้สมมติฐานว่าไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

blog_list_heading
InnovestX Research
11 มิ.ย. 2567;
134
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

เราปรับประมาณการ NIM ของธนาคารขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ปรับประมาณการ NIM ของ TISCO และ KKP ลดลง หลังจากปรับเปลี่ยนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2% (ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 50 bps) เป็น 2.5% (ไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ดังนั้นเราจึงปรับประมาณกำไรปี 2567 ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 4% โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2567 เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยได้รับการสนับสนุนจาก valuation ที่น่าสนใจ และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ

ปรับเปลี่ยนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราปรับเปลี่ยนสมมติฐานเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยปัจจุบันเราคาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2567 แทนสมมติฐานก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 bps เราเชื่อว่ามีโอกาสน้อยลงที่ธปท. จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจาก: 1) แนวโน้มที่ GDP จะฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเป็นหลัก และ 2) อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการยกเลิกเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลบางส่วนและฐานที่ต่ำกว่าในปีก่อนหน้า โดยในตอนนี้ เราใช้สมมติฐานว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ที่ 2.5%

ปรับประมาณการ NIM ปี 2567 ของธนาคารขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น การปรับเปลี่ยนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบายส่งผลทำให้เราปรับประมาณการ NIM ปี 2567 ของธนาคารขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3-8 bps แต่ปรับประมาณการ NIM ของ TISCO และ KKP ลดลง 5-8 bps เราคาดว่า NIM จะลดลง QoQ ใน 2Q67 อันเป็นผลมาจากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลดลง 25 bps เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนการกู้ยืมสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางและผู้ประกอบการ SME รายย่อย (มีผลตั้งแต่เดือนพ.ค.) สำหรับ 2H67 เราคาดว่า NIM จะอยู่ในระดับทรงตัว

ปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น เราปรับประมาณกำไรปี 2567 ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 4% หลังจากปรับเปลี่ยนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 2-5% ในขณะที่เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 3% สำหรับ KKP และ 5% สำหรับ TISCO โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2567 โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 3% NIM ในระดับทรงตัว credit cost ที่ลดลงเล็กน้อย non-NII ในระดับคงที่ และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในระดับทรงตัว

คงราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เราคงราคาเป้าหมายของเราไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะรอทบทวนหลังการประกาศผลประกอบการ 2Q67 เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยได้รับการสนับสนุนจาก valuation ที่น่าสนใจ และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ

ความเสี่ยง: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์; 2) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง; 3) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรมและความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก BANK240611_T

We raised our NIM forecast slightly for large banks but cut it for TISCO and KKP after changing our assumption to no cut this year (policy rate at 2.5%) from a 50 bps cut (to 2%). This raises our sector 2024 earnings by 4% and we now expect 5% growth in 2024. We keep BBL and KTB as sector picks, as valuations are attractive and asset quality risk lower than peers.

Changed policy rate assumption. The window for the BoT to ease policy this year has narrowed and we now expect no policy rate cut in 2024 after earlier expecting a 50bps cut. Behind the narrowed window: 1) a potential recovery in GDP from 2Q24 onward on an acceleration in government budget disbursement and 2) a rise in inflation driven by removal of some diesel subsidies and base effect. For the time being, we assume the policy rate will be on hold at 2.5%.

Raised 2024F NIM for large banks. The change in policy rate assumption raises our 2024F NIM by 3-8 bps for large banks but cuts this by 5-8 bps for TISCO and KKP. We expect a QoQ fall in NIM in 2Q24 as a result of repricing deposit cost and a 25 cut bps cut in MRR for six months to help lower borrowing cost for vulnerable groups and small SMEs (effective in May). In 2H24, we expect NIM to stabilize. 

Raised earnings forecast. The change in our policy rate assumptions raises our 2024 sector earnings forecast by 4%. For large banks, we raise 2024F earnings by 2-5%, whereas we cut earnings by 3% for KKP and 5% for TISCO. We now expect the sector’s earnings to rise 5% in 2024, underpinned by 3% loan growth, stable NIM, a slight ease in credit cost, flattish non-NII and stable cost to income ratio.  

Click here to read and/or download file :  BANK240611_E

กลับด้านบน