โอกาสการลงทุนในพลังงานสะอาดยังมีอีกมาก และยังเป็น theme หลักสำหรับเติบโตในระยะยาว | การเติบโตระยะยาวโดดเด่นจากความต้องการใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากภาคอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และครัวเรือน ในช่วงที่ผ่านมาการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero emission, NZE) เป็นเป้าหมายของรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย กลุ่ม G7 มีความพยายามที่จะผลักดันนโยบายเพื่อหนุนการใช้พลังงานสะอาด ผ่านการค้าการลงทุนกับประเทศอื่นๆ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านให้ไปสู่พลังงานสะอาดเกิดได้เร็ว เพื่อบรรลุเป้าหมาย NZE ต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 96-161 ล้านล้านดอลล่าร์ในช่วงปี 2020-2050 ขึ้นกับสมมติฐาน จึงเป็นโอกาสสร้างเติบโตในอุตสาหกรรมที่เติบโตไปกับกระแสหลักของโลกในยุคปัจจุบัน และเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนสำหรับการลงทุนระยะยาว ปัจจุบันการลงทุนในบริษัทที่เน้นถึงสิ่งแวดล้อมยังมีสัดส่วนไม่มาก แต่แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
ปัจจุบันไทยยังห่างจากเป้าหมาย Net Zero Emission (NZE) อยู่มาก | ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงใน COP 26 ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (GHG) เป็นศูนย์ในปี 2065 แม้ที่ผ่านมาการปล่อยคาร์บอนต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้าของไทยจะลดลงต่อเนื่องจากสัดส่วนพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการปล่อยรวมยังเพิ่มสูงขึ้น 3% ต่อปี ดังนั้นแผน PDP 2022 (อยู่ระหว่างจัดทำ) คาดจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนขึ้นเป็น 50% เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม หากเป็นไปตามคาดจะเป็นโอกาสลงทุนและเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดในประเทศไทยในระยะยาว |
การสนับสนุนจากภาครัฐยังเป็นปัจจัยสำคัญในช่วงแรก | ในช่วงแรกต้นทุนการใช้พลังงานสะอาดยังสูงกว่าเทียบกับพลังงานฟอสซิลที่มีการพัฒนามานาน ดังนั้นการสนับสนุนจากภาครัฐ จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก นอกจากนั้นการกำหนดบทลงโทษ ผ่านการกำหนดให้การปล่อยคาร์บอนเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการจึงมีความสำคัญ การลงทุนในระยะสั้นจึงเป็นลักษณะ trading ไปกับนโยบาย ในระยะยาวเทคโนโลยีพลังงานสะอาดคาดจะสามารถแข่งขันได้มากขึ้น จากต้นทุนที่ต่ำลง จากการประหยัดต่อขนาดการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้กลุ่มจะกลับมาสะท้อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้น |
ผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรม | ผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมกระจายตัวอยู่ในธุรกิจที่หลากหลาย ดังนั้นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการปรับกลยุทธ์ในสอดรับกับความเปลี่ยนแปลง ที่คาดจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ไป ดังนั้นจึงมองเป็นได้ทั้งโอกาสและเป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการ ขึ้นกับการปรับตัว |
หุ้นน่าสนใจ | ที่ผ่านมาการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดจะมีการเกี่ยวโยงกับนโยบายค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐ มองไปข้างหน้าเมื่อเป้าหมายของทั่วโลกชัดเจน การแข่งขันกับพลังงานฟอสซิลทำได้มากขึ้น การลงทุนจะกลับมาเน้นปัจจัยพื้นฐานเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นการลงทุนใน theme ESG จะเป็นอีก theme ที่มีบทบาทเพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มพลังงานสะอาดคาดจะเข้าไปอยู่ในการคัดเลือกของ theme ESG มากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดต่างประเทศเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และได้รับการสนับสนุนมากกว่า เราชอบหุ้นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ ENEL และ Orsted หุ้นระบบโครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ LONGI และ SEDGE ห่วงโซ่ EV ได้แก่ TSLA และ BYD ในส่วนตลาดหุ้นไทยหุ้นที่มีการเตรียมพร้อมรับการเติบโตของพลังงานสะอาด เราชอบ PTT EA DELTA และ GULF |
กดอ่านเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารได้จากปุ่มด้านล่าง