ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

INVX Offshore Stock Update - Tesla (TSLA.US) 19/10/2023

blog_list_heading
19 ต.ค. 2566;
479
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

TSLA

งบ 3Q23 อ่อนแอสะท้อนผลกระทบจากการปรับลดราคาขาย....เตรียมส่งมอบ Cybertruckในช่วงพ.ย.

Tesla เผยงบ 3Q23 โดยรายได้อยู่ที่ $23.4bn น้อยกว่าคาดที่ $24.1bn อย่างไรก็ดียังคงเติบโต 13%YoY ด้านกำไรต่อหุ้นหดตัว 37%YoY อยู่ที่ $0.6 ต่ำกว่าคาดที่ $0.74 เช่นกัน ด้าน Gross margin (GM) ต่ำกว่าคาดและหดตัว 22%YoY อย่างไรก็ดีคงเป้าหมายการผลิตปี 23 ที่ 1.8 ล้านคันเช่นเดิม รวมถึงเตรียมส่งมอบ Cybertruck วันที่ 30 พ.ย.

มุมมองของ InnovestX

งบ 3Q23 ออกมาอ่อนแอเป็นผลจาก 1) การปรับลดราคาขายที่ส่งผลให้ Average Sale price (ASP) ลดลง ประกอบกับ GM ที่ลดลงอย่างชัดเจนอยู่ที่ 17.9% ซึ่งหากเทียบกับในปีก่อนที่ยังไม่มีการลดราคาอยู่ที่ 25.1% 2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ Cybertruck AI และ R&D อื่นๆ 3) ยอดส่งมอบและการผลิตที่ต่ำกว่าคาดหลังปรับปรุงโรงงาน

ระยะสั้น เรามองว่า Tesla ยังคงมีแรงกดดดันจาก 1) ภาพการแข่งขันทางด้านราคาระหว่าง Peers ในอุตฯ EV ที่ยังคงเพิ่มขึ้น 2) ความเสี่ยงจากการควบคุมของทางการ โดยล่าสุดสหภาพยุโรปได้ต่อต้านการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ EV ในจีนซึ่ง TSLA เป็นหนึ่งในบริษัทที่ผลิตรถในจีนและมีการส่งออกจากจีนไปยุโรป 3) อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่บริษัทกังวลอยู่เช่นกันหลังกำลังประเมินปัจจัยมหภาคร่วมกับแผนการสร้างโรงงานในเม็กซิโก 4) แนวโน้มการปรับลดราคาขายที่ยังคงดำเนินอยู่ อย่างไรก็ดีเรามองว่าสามปัจจัยแรกเป็นปัจจัยมหภาคที่ส่งผลกระทบต่อบริษัททั่วทั้งอุตฯ นอกจากนี้ถึงแม้ Tesla จะมีแรงกดดันหลายปัจจัยแต่เรามองว่าบริษัทยังคงมีปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจและเยียวยาแรงกดดันได้จาก 1) การส่งมอบ Cybertruck ที่เริ่มใน 4Q23 ซึ่งบริษัทคาดว่าจะผลิตได้ราว 250,000 คันต่อปีและกระแสเงินสดเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญราว 1ปี – 1ปีครึ่ง 2) การหยุดโรงงานเพื่อ Upgraded ผ่านไปแล้วซึ่งจะช่วยหนุนกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้นและรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ประกอบกับแผนการลดต้นทุนต่อเนื่องที่ช่วยเพิ่มราคาขายต่อหน่วยซึ่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเยียวยาแรงกดดันจากการปรับลดราคาได้เช่นกัน 3) ในช่วง 1Q24 การพัฒนา Dojo Supercomputer AI ที่จะเอาไปใช้ในระบบขับขี่อัตโนมัติที่จะมีภาพการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในระยะยาวถึงแม้จะมีแรงกดดันจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นและสงครามราคา แต่เราเชื่อว่า Tesla จะยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำอุตฯและสามารถอยู่รอดในสงครามราคาได้หลัง 1) แบรนด์แกร่งหลังได้ประโยชน์จากการเป็นผู้เข้าตลาด EV รายแรกๆในอุตฯ 2) มีเทคฯที่ล้ำสมัย เช่น Dojo Supercomputer, Autonomous car, แบตเตอรี่ ฯลฯ ซึ่งสามารถ Disrupt กลุ่มรถยนต์และกลุ่มผลิตไฟฟ้าได้ 3) มีระบบนิเวศน์ที่ดี โดยมีการผลิตตั้งแต่แบตเตอรี่ ไปจนถึงมีเครือข่าย Supercharger ของบริษัทที่กระจายไปทั่วโลก 4) มีแผนลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่อเนื่อง รวมถึงมีการจัดการกับห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรในอนาคตให้เติบโตต่อเนื่อง

ในส่วนของมุมมองการลงทุน เรามองว่า Tesla ยังคงมี Downside จากปัจจัยมหภาคที่ยังคงดำเนินอยู่และแนวโน้มการปรับลดราคาขายที่อาจมากกว่าคาด ประกอบกับ Valuation ในปัจจุบันที่ค่อนข้างแพงโดยเทรดอยู่ที่ PE 76x ซึ่งสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 38.2x ด้วยภาพนี้ทำให้เรายังคงแนะรอราคาปรับตัวลงรับแรงกดดันมากกว่านี้ก่อนและแนะมองจังหวะการลงทุนเพื่อทยอยสะสมในช่วง 220-230 USD ที่เราคาดว่าราคาในระดับนี้จะให้ Risk Reward ที่คุ้มค่าและหวังการฟื้นตัวของธุรกิจในระยะถัดไป ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 267USD ซึ่งมี Upside 6% จากราคาปัจจุบัน

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Tesla_Offshore Stock 231019_T

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน