Keyword
Company Earnings

CHG – 1Q66: กำไรอ่อนแอตามคาด – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 4 บาท)

15 May 23 3:35 PM
16052023-30-20240911152938

CHG รายงานกำไรสุทธิอ่อนแอที่ 240 ลบ. ใน 1Q66 ลดลง 82% YoY และ 16% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษเกี่ยวกับบริการโควิด-19 ใน 4Q65 กำไรปกติลดลง 8% QoQ ผลประกอบการเป็นไปตามตลาดคาด กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ มีสาเหตุมาจากรายได้และ EBITDA margin ที่อ่อนแอลงเพราะต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q66 จะลดลง YoY แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากผลกระทบจากช่วงโลว์ซีซั่นจะได้รับการชดเชยจากการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นในผลประกอบการจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น CHG เมื่อกำไรกลับมาเพิ่มขึ้น YoY ใน 2H66 เราให้เรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ CHG ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 4 บาท/หุ้น

1Q66: กำไรอ่อนแอตามคาด CHG รายงานกำไรสุทธิอ่อนแอที่ 240 ลบ. ใน 1Q66 ลดลง 82% YoY และ 16% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษเกี่ยวกับบริการโควิด-19 ใน 4Q65 กำไรปกติลดลง 8% QoQ เป็นไปตามตลาดคาด กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ มีสาเหตุมาจากรายได้และ EBITDA margin ที่อ่อนแอลง เพราะต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น

รายการที่สำคัญ

  • รายได้ 1Q66 อยู่ที่ 1.7 พันลบ. ลดลง 52% YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้จากบริการโควิด-19 (เทียบกับ 2.0 พันลบ. หรือ 55% ของรายได้ 1Q65 และ 50 ลบ. ใน 4Q65) รายได้จากบริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 เติบโต 8% YoY และ 3% QoQ
  • รายได้อื่น (ส่วนใหญ่มาจากบริการบริหารโรงพยาบาลและบริการด้านโรคหัวใจ) อยู่ที่ 73 ลบ. ใน 1Q66 เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 25% QoQ
  • EBITDA margin อยู่ที่ 23% ใน 1Q66 ลดลงจาก 50.2% ใน 1Q65 โดยมีสาเหตุมาจากฐานสูงจากการให้บริการรักษาโรคโควิด-19 และลดลงจาก 23.6% ใน 4Q65 เพราะต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น (+4% QoQ) CHG กล่าวว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลใหม่ที่วางแผนเปิดให้บริการในปีนี้

ปรับประมาณการกำไร เราปรับประมาณการกำไรของ CHG ลดลง 8% ในปี 2566 และ 6% ในปี 2567 เพื่อสะท้อนต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นซึ่งจะไปหักล้างการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น 10% (มีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ค.) ) ทั้งนี้ หลังจากปรับประมาณการ เราคาดการณ์กำไรปกติของ CHG ที่ 1.3 พันลบ. ในปี 2566 (-55% YoY) และ 1.4 พันลบ. ในปี 2567 (+12% YoY) เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q66 จะลดลง YoY แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากผลกระทบจากช่วงโลว์ซีซั่นจะได้รับการชดเชยจากการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น และคาดว่ากำไรจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ใน 2H66 ในขณะที่คาดว่ากำไรจะเติบโตปานกลางในปี 2567 โดยอิงกับมุมมองที่ว่า EBITDA margin จะอ่อนตัวลงสู่ 26.2% (จาก 26.5%) สืบเนื่องมาจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ แม่สอด (ขนาด 100 เตียง) ในเดือนมิ.ย. 2566

คงเรทติ้ง NEUTRAL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF อยู่ที่ 4 บาท/หุ้น (เปลี่ยนแปลงน้อยมากหลังปรับประมาณการกำไร) โดยอิงกับ WACC ที่ 6.7% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 3% ความเชื่อมั่นในผลประกอบการจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น CHG เมื่อกำไรของบริษัทกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ใน 2H66

ปัจจัยเสี่ยง: ผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการน้อยลง การขาดแคลนบุคลากร และภาระต้นทุนที่โรงพยาบาลใหม่

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  CHG15052023

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5