กำไรสุทธิ 2Q67 ของ KBANK ออกมาดีกว่า INVX และ consensus คาดจาก ECL โดยผลประกอบการสะท้อนถึง credit cost ในระดับทรงตัว NPL ไหลเข้าที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว NIM ที่ลดลง non-NII ที่ดีขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น เราคาดว่ากำไร 2H67 จะลดลง HoH ตามฤดูกาล (opex และ credit cost สูงขึ้น) และ YoY เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ KBANK และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 140 บาท สู่ 145 บาท
1Q67: ดีเกินคาดจาก ECL กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1.27 หมื่นลบ. (-6% QoQ, +15% YoY) สูงกว่า INVX คาด 15% และสูงกว่า consensus คาด 5% หลักๆ เกิดจาก ECL ที่ต่ำกว่าคาด
NPL ไหลเข้าลดลง และ credit cost อยู่ในระดับทรงตัว NPL ลดลง 1% QoQ ถ้านำยอดตัดหนี้สูญและยอดขาย NPL บวกกลับเข้ามา NPL จะเพิ่มขึ้น 12% QoQ เทียบกับ 15% QoQ ใน 1Q67 ซี่งบ่งชี้ว่า NPL ไหลเข้าลดลง ยอดตัดหนี้สูญและยอดขาย NPL ลดลง 19% QoQ KBANK วางแผนลดการตัดหนี้สูญและการขาย NPL ลง 30% ในปี 2567 สู่ 6.5 หมื่นลบ. (3.1 หมื่นลบ. ใน 1H67) credit cost อยู่ในระดับทรงตัว QoQ (-20 bps YoY) ที่ 1.89% ต่ำกว่าคาด แต่เป็นไปตามเป้าที่ธนาคารวางไว้ทั้งปีที่ 1.75-1.95% ในการประชุมนักวิเคราะห์ KBANK เปิดเผยว่าธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อให้กับ EA น้อยมาก และตั้งสำรองไว้ครบทั้งหมดแล้ว เรายังคงประมาณการ credit cost ปี 2567 ไว้ตามหลักความระมัดระวังที่ 1.95% (-13 bps) LLR coverage ปรับเพิ่มขึ้นจาก 139% ณ 1Q67 สู่ 141% KBANK ยังคงคาดว่า credit cost จะกลับสู่ระดับปกติที่ 1.4-1.6% ในปี 2568 (เทียบกับประมาณการของ INVX ที่ 1.7%)
การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว ที่ +1% QoQ, +1.6% YoY, -0.1% YTD KBANK คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 จะอยู่ที่ตัวเลขด้านต่ำของเป้าที่ธนาคารวางไว้ที่ 3-5% โดย YTD การเติบโตของสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ที่ 4% ถูกหักล้างโดยการหดตัวของสินเชื่อ SME สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
NIM หดตัวลง -9 bps QoQ สู่ 3.67% อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 7 bps QoQ แย่กว่าคาด โดย 2 bps เกิดจากอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนที่ลดลงจาก MTL และ 5 bps เกิดจากอัตราผลตอบแทนจากเงินให้สินเชื่อที่ลดลง (เน้นปล่อยสินเชื่อผลตอบแทนต่ำมากขึ้น, กลยุทธ์การกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อรักษาลูกค้า, การลดดอกเบี้ยสำหรับกลุ่มลูกค้าเปราะบาง) ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 4 bpd QoQ จากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นและการออกหุ้นกู้ในต่างประเทศ KBANK คาดว่า NIM ปี 2567 จะอยู่ในระดับทรงตัวที่ 3.66% (เทียบกับ 3.73% ใน 1H67) ซึ่งบ่งชี้ว่า NIM จะหดตัวลงอีกใน 2H67
Non-NII เติบโตดี ที่ +11% QoQ (+10% YoY) จากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ดีขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง 3% QoQ (ค่าธรรมเนียมรับจากธุรกิจบัตรและค่าธรรมเนียมเชิงพาณิชย์) แต่เพิ่มขึ้น 5% YoY (ค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุนและค่าธรรมเนียมเชิงพาณิชย์)
อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้น +57 bps QoQ (+217 bps YoY) สู่ 43.59% opex เพิ่มขึ้น 6% QoQ (+5% YoY) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลใน 2H67 KBANK ยังคงเป้าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2567 ไว้ที่ low to mid 40% (เทียบกับประมาณการของ INVX ที่ 44.9%) โดยจะบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มผลิตภาพอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้ม 2H67 กำไร 1H67 คิดเป็น 60% ของประมาณการกำไรปี 2567 ของเรา เราคาดว่ากำไร 2H67 จะลดลง HoH ตามฤดูกาล (opex และ credit cost เพิ่มขึ้น) และ YoY (NIM ลดลง และ opex สูงขึ้น)
คงคำแนะนำ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น สู่ 145 บาท (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.58 เท่า) เนื่องจากเราปรับปีฐานในการประเมินราคาเป้าหมายเป็นปี 2568
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากการลดอัตราดอกเบี้ย 3) ความเสี่ยงขาลงต่อการเติบโตของสินเชื่อเนื่องจากความต้องการสินเชื่อต่ำ และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก KBANK240723_T |
---|
Beating on ECLs, KBANK’s 2Q24 results showed stable credit cost, easing NPL inflow, sluggish loan growth, falling NIM, better non-NII and rising cost to income ratio. We expect 2H24F earnings to fall HoH on seasonality (higher opex and credit cost) and YoY. We maintain Neutral with a hike in TP to Bt145 from Bt140.
|
---|
Click here to read and/or download KBANK240723_E |