เนื้อหาโดยรวม
ก่อนไปคิดอะไร
เรามองว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ซึ่งส่งผลบวกต่อการเติบโตของ FDI และ Demand การใช้ที่ดินในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วน Electronic และ EV supply chain โดยฐานลูกค้าหลักยังคงมาจากประเทศจีน และ Demand ใน 1Q67 คาดเติบโตได้เล็กน้อย จุดเด่นอยู่ในพื้นที่ EEC
หลังไปได้อะไร
AMATA มียอดขายที่ดินใน 1Q67 ที่ 312 ไร่ (288 ไร่มาจากยอดขายในประเทศไทย และ 23 ไร่มาจากเวียดนาม) โดยในไตรมาสนี้เริ่มมีการบันทึกยอดขายจากนิคมอตมะ บ้านบึง ชลบุรี เข้ามา 15 ไร่ โดยฐานลูกค้าหลัก 86% เป็นลูกค้าชาวจีน รองลงมาคือญี่ปุ่นที่ 9% โดยสัดส่วนของอุตสาหกรรมที่สูงที่สุดคือ Manufacturing ที่ 32% อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ 18% เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ 17%
ยอดขายของ 1Q67 คิดเป็นสัดส่วนที่ 17% ของเป้าการขายขั้นต่ำในปี 2567 ที่ AMATA ตั้งไว้ที่ 1,800 ไร่ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2566 ที่มียอดขาย 1,854 ไร่ นอกจากนี้ในปีนี้ AMATA มีการปรับราคาขายที่ดินในประเทศไปแล้วประมาณ +/-10% สำหรับลูกค้าใหม่
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
Backlog ปัจจุบันที่ 13,800 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากประเทศไทย 87% และประเทศเวียดนาม 13% คาดว่าไม่ต่ำกว่า 40% จะบันทึกรายได้ในปี 2567 ดังนั้นเราคาดรายได้รวมของปี 2567 ที่ 11,037 ล้านบาท เติบโต 16% YoY ระดับ Gross Margin คาดว่าจะฟื้นตัวเท่ากับ 41.1% ดีขึ้นจาก 39% ในปี 2566 เนื่องจากสัดส่วนการบันทึกรายได้จากเวียดนามซึ่งมีระดับ Gross Margin จะมีน้อยลงในปีนี้ และเราคากำไรสุทธิที่ 2,239 ล้านบาท (+18.8% YoY) บนสมมติฐานของการไม่มีการกำไรพิเศษจากการสินทรัพย์ใปนี 2567
สำหรับ 1Q67 คาดการโอนที่ดินของ 1Q67 ที่ 151 ไร่ (128 ไร่จากประเทศไทยและ 23 ไร่จากประเทศเวียดนาม) ซึ่งเพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 50% QoQ และด้วยสัดส่วนจากอมตะชลบุรี ที่ประมาณ 45% ของยอดโอนคาดจะหนุนทำให้ระดับ Gross margin เฉลี่ยปรับตัวดีขึ้น QoQ แต่ยังอ่อนตัว YoY ทิศทางของกำไรสุทธิคาดจะอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ อยู่ในกรอบ 400-450 ล้านบาท และจะเติบโตสูงขึ้นใน 2Q และ 3Q จากกำหนดการโอนของ Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เราให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ฐาน PER ที่ 15.2 เท่าซึ่งเท่ากับ PE เฉลี่ยในรอบ 6 ปีของ AMATA ได้ราคาเป้าหมาย 29.10 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ ซื้อ
ความเสี่ยง : ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้าน ESG : AMATA ได้จัดอยู่ในระดับ AAA ของ SET ESG Ratings ในปี 2566 โดย AMATA เน้นด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน รวมถึงการ re-use พลังงานในพื้นที่ทุกนิคมของ AMATA ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือ การบริหารจัดการพลังงานทั้งในพื้นที่นิคมฯ และส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก AMATA_240429_Stock Note_T