ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}
12 พ.ค. 2566;
183
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

ก่อนไปคิดอะไร

  • ผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือปีนี้จะเป็นยังไง หลัง 1Q66 NER มีกำไรสุทธิ 314 ลบ. ลดลง 33%YoY โดยแม้ปริมาณขายยาง 1.28 หมื่นตัน เพิ่มขึ้น 32.4%YoY แต่ถูกหักล้างด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ 49 บาทต่อกก. ลดลง 15.5%YoY จึงทำให้ยอดขายโตแค่ 11.8%YoY และยังถูกกดดันด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็น 9.7% จาก 8% ใน 1Q65 หลังราคาขายยางลดลงเร็วกว่าต้นทุน ส่วนกำไรที่ลดลง 15%QoQ เกิดจากยอดขายหดตัว 12%QoQ (ปริมาณขายและราคาขายลดลง 7%QoQ และ 5%QoQ ตามลำดับ) และมาร์จิ้นที่ปรับตัวลง

หลังไปได้อะไร

  • NER มองช่วงที่เหลือปีนี้ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการยางยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากการเปิดประเทศของจีนและความต้องการรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการขยายตลาดลูกค้าใหม่ทั้งในไทย จีน สิงคโปร์ และอินเดีย (ตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตยางติด Top5 ของไทยภายในปี 2567) โดยบริษัทยังคงตั้งเป้าปี 2566 จะมีปริมาณขายยางราว 5.0 แสนตัน เติบโต 12%YoY ส่วนราคาขายยางอาจจะไม่สูงมากแต่คาดยังอยู่ในระดับที่ดี
  • บริษัทมีแผนลดต้นทุนการผลิตด้วยการขยายกำลังการผลิตซึ่งจะทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด โดยปีนี้มีแผนเพิ่มกำลังผลิตอีก 5 หมื่นตันที่โรงงานเดิมแห่งที่ 2 และจะก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งมีกำลังผลิต 1.728 แสนตัน ใช้งบลงทุน 700 ลบ. (แหล่งเงินทุนจะมาจากกำไรสะสมและ CFO) ซึ่งคาดจะเปิดดำเนินการใน 1Q67 ส่งผลให้สิ้นปี 2566 จะมีกำลังผลิตรวม 5.156 แสนตัน จากปี 2565 ที่ 4.656 แสนตัน และจะเพิ่มเป็น 6.884 แสนตันในปี 2567 ทั้งนี้จะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงาน

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน

  • แม้ปี 2566 ปริมาณขายยางจะมีแนวโน้มเติบโต YoY ตามอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นจากการเปิดประเทศของจีนและความต้องการยางรถ EV รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ แต่กำไรปกติ 1Q66 คิดเป็นเพียง 16% ของประมาณการทั้งปีซึ่งต่ำเกินไป เนื่องจากศักยภาพทำกำไรแย่กว่าคาดมากจากราคาขายที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดมาก เพื่อสะท้อนปัจจัยลบและยึดหลักระมัดระวัง เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลงจากเดิม 16% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2566 NER จะมีกำไรปกติ 1,625 ลบ. หดตัว 12%YoY
  • กรอบราคาเป้าหมายใหม่ปี 2566 อยู่ที่หุ้นละ 4.80-5.30 บาท (อิงค่าเฉลี่ย PER เดิมที่ 5-6.0 เท่า) พบว่าไม่มี Upside ที่น่าสนใจแล้ว ซึ่งเมื่อบวกกับ 2Q66 คาดกำไรปกติยังมีแนวโน้มลดลง YoY ตามราคาขายยางเฉลี่ยที่ลดลง YoY จึงทำให้ขาดปัจจัยกระตุ้นการปรับขึ้นของราคาหุ้นในช่วงสั้นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ “ขายหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน”
  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความผันผวนของราคายางพารา, การถดถอยของเศรษฐกิจโลกและจีน, การแข็งค่าของเงินบาท
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  NER_Stock Note 230512_T

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน