BCP ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตตามที่ได้ระบุไว้ในงาน investor forum ครั้งล่าสุด ด้วยพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายครอบคลุมธุรกิจโรงกลั่น เชื้อเพลิงชีวภาพ E&P การค้า พลังงานไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐาน BCP จึงตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็นสองเท่าภายในปี 2571 การจัดสรรเงินทุนอย่างมีวินัย การให้ความสำคัญกับ ESG อย่างจริงจัง และการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่เติบโตสูงทำให้ BCP เป็นหุ้นที่น่าลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว เราคงคำแนะนำ OUTPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ 47 บาท (EV/EBITDA ที่ 3.1 เท่า เทียบกับบริษัทอื่นในกลุ่มเดียวกันที่ >9 เท่า) นักลงทุนควรพิจารณาทยอยซื้อสะสมเพื่อให้ได้รับประโยชน์จาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และการขยายธุรกิจในภูมิภาค ขณะที่ valuation ปัจจุบันยังไม่แพง
ขับเคลื่อนองค์กรผ่าน 5 เสาหลักเชิงกลยุทธ์ กลุ่ม BCP กำลังพัฒนาและวางรากฐานเพื่อการเติบโตในอนาคตผ่าน 5 เสาหลักเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ การรวมธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพไว้ด้วยกัน; มุ่งพัฒนาการซื้อขายพลังงานแบบมีสินทรัพย์รองรับ (asset-backed trading); ตั้งเป้าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำ; ลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน; และวางรากฐานเพื่อการเติบโตในระยะยาวผ่านนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพและเชื้อเพลิงสังเคราะห์ บริษัทตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็นสองเท่าภายในปี 2571 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มอัตรากำไร การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และโครงการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ BCP ยังมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน ESG เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนและเสริมภาพลักษณ์ของ BCP ในฐานะผู้นำที่แข็งแกร่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมพลังงาน
ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านการเงินที่มีวินัย BCP วางแผนเปิดโครงการซื้อหุ้นคืนระยะเวลา 3 ปี (ยังรอการอนุมัติจากคณะกรรมการ) ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผลที่มีมาอย่างสม่ำเสมอของบริษัท การจัดสรรเงินทุนจะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยใช้เกณฑ์ IRR สูงกว่า 15% งบลงทุน 3.5 หมื่นลบ. สำหรับปี 2569-2571 สัดส่วน 60% จะถูกจัดสรรให้กับธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด การค้า และเชื้อเพลิงชีวภาพ กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอและรักษาอันดับความน่าเชื่อถือเพื่อให้มีต้นทุนทางการเงินที่แข่งขันได้
มุ่งสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ ESG สูงสุด กลุ่ม BCP เร่งดำเนินกลยุทธ์ด้าน ESG โดยกำหนดเส้นทางที่ชัดเจนสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593บริษัทมุ่งลดความเข้มข้นการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด การรีไซเคิลแบตเตอรี่ และเทคโนโลยีชีวภาพสังเคราะห์ บริษัทตั้งเป้าติดอันดับ Top 1% ESG Ranking และ Top 5% ของดัชนี DJSI เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนและการสร้างมูลค่าในระยะยาว แนวทางเหล่านี้ช่วยเสริมให้ BCP ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดยการดำเนินงานที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและผลงานด้าน ESG ที่โดดเด่นทำให้บริษัทดูน่าสนใจลงทุนมากขึ้น
การเติบโตจะเร่งตัวขึ้นใน 2H68-ปี 2569 BCP จะเร่งปรับโครงสร้างธุรกิจใน 2H65 ถึงปี 2569 โดยมุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงด้านพลังงานและความยั่งยืน ปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นจะเพิ่มขึ้นจาก 262,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2568 เป็น 275,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2569 โดยผลิตภัณฑ์ SAF และ HVO จะช่วยหนุนให้ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20% สู่ระดับ US$6–6.5/bbl โดยคาดว่าหน่วยผลิต SAF จะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปี 2569 EBITDA จากธุรกิจการค้าจะเติบโต 43% สู่ระดับ 1 พันลบ. โดยได้แรงหนุนจากการมีสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดโลก ปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซจะเพิ่มขึ้น 50% เป็น ~50,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันต่อวัน นำโดย OKEA และสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานจะได้รับประโยชน์จากราคาประมูลที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและการสร้างมูลค่าในระยะยาว
คงประมาณการกำไร แม้แนวโน้มธุรกิจจะเป็นบวกมากขึ้น แต่เรายังคงประมาณการกำไรปี 2568–2570 ไว้ตามหลักความระมัดระวัง โดยคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 16% ในปี 2569 ด้วยแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นที่เพิ่มขึ้น 1.5% เป็น 280,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของ BSRC และค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น 10% เป็น US$6.8/bbl สัดส่วนการผลิต gasoil ที่เพิ่มขึ้นเป็น 48-49% (จาก 43%) ทำให้ BCP อยู่ในตำแหน่งที่จะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ gasoil ที่แข็งแกร่งขึ้น เรายังคงราคาเป้าหมายของ BCP ไว้ที่ 47 บาท อ้างอิงวิธี sum-of-parts
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความผันผวนของราคาน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ค่าการกลั่น และทำให้มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ กฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รายการด้อยค่าของสินทรัพย์ในธุรกิจ E&P และการแทรกแซงราคาขายปลีกน้ำมัน ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงาน
Strategic pivot toward energy leadership
BCP is executing a strategic shift toward becoming a future-ready energy conglomerate, as outlined in the latest investor forum. With a diversified portfolio across refining, biofuels, E&P, trading, power and infrastructure, it aims to double EBITDA by 2028. Backed by disciplined capital allocation, strong ESG focus, and expansion into high-growth areas, BCP offers long-term value. We maintain OUTPERFORM with a SOTP TP of Bt47 (3.1x EV/EBITDA vs. >9x peers). Investors should consider accumulating ahead of EBITDA growth, enhanced returns, and regional expansion while current valuation remains undemanding.
Five strategic pillars. BCP Group is advancing its future through five strategic pillars: integrating refining and biofuels; expanding asset-backed trading; mid-life E&P; investing in power and infrastructure; and seeding long-term growth through innovation in bio-energy tech and synthetic fuels. It targets doubling EBITDA by 2028, supported by margin uplift, high-return investments, and a share buyback program. It is also aiming at top-tier ESG rankings, reinforcing its commitment to sustainability and positioning BCP as a leader in the evolving energy landscape.
Prioritizing disciplined financial strategy. BCP plans to launch a 3-year share buyback program (still subject to board approval) without affecting its consistent dividend payment. Capital allocations will focus on high-return investments with IRR thresholds of >15%. Of the capex pipeline of Bt35bn for 2026-2028, 60% will go to refinery and marketing, trading and biofuels. Strong cash flow will support consistent dividends and uphold its credit rating for competitive financing cost.
Aiming at top ESG rankings. BCP Group is moving to achieve Net Zero by 2050. It is actively reducing carbon intensity and investing in clean molecules, battery recycling and synthetic biology. It targets the top 1% in ESG rankings and top 5% in the DJSI, reinforcing its commitment to sustainability and long-term value creation. These initiatives position BCP as a leader in energy transition, enhancing its investment appeal through future-ready operations and strong ESG credentials.
Accelerating growth in 2H25-2026. BCP is accelerating transformation in 2H25–2026, focusing on energy security and sustainability. Crude run will rise to 275kbd in 2026 from 262kbd in 2025, with SAF and HVO boosting GRM by over 20% to US$6–6.5/bbl. The SAF plant is expected to start mid-2026. Trading EBITDA will grow 43% to Bt1bn, driven by global positioning. Oil and gas output will surge 50% to ~50kBOED, led by OKEA and SEA assets. Power and infrastructure will benefit from rising auction prices, supporting long-term growth and value creation.
Earnings forecast maintained. Despite more bullish guidance, we maintain our conservative 2025–27F earnings forecast. Core profit is expected to grow 16% in 2026F, driven by a 1.5% increase in crude run to 280kbd post-BSRC maintenance and a 10% rise in GRM to US$6.8/bbl. Improved gasoil yield to 48-49% (from 43%) positions BCP to benefit from stronger crack spreads. Our TP of Bt47 remains unchanged, based on a sum-of-parts valuation.
Risks & concerns. Economic slowdown and oil price volatility may pressure refined product demand, GRM, and cause stock losses. Key risks include GHG regulations, E&P asset impairments, and retail price intervention. ESG concerns center on environmental impact and BCP’s ability to adapt during the energy transition.
Download PDF Click > BCP250929_E.pdf
