Company Update

BJC – 2Q67: กำไรออกมาตามตลาดคาด – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 24 บาท)

14 Aug 24 9:00 AM
Slide268f5a7eda-9cde-409c-884a-749f76c0b2e9-20240911215933

กำไรปกติ 2Q67 อยู่ที่ 1.2 พันลบ. -2% YoY แต่ +22% QoQ เป็นไปตามตลาดคาด ด้วยบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่ซบเซา เราจึงประเมินว่า SSS ใน 3Q67TD ของ BJC จะยังคงหดตัวลงใกล้เคียงกับ 2Q67 ที่ -1.9% YoY เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ของ BJC ลดลง 3% เพื่อสะท้อนยอดขายที่อ่อนแอ YTD เราคาดว่ากำไรปกติ 3Q67 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยกำไรจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรง YoY เนื่องจากจากการเติบโตของยอดขายที่ไม่น่าตื่นเต้น รวมถึงอัตราภาษีที่แท้จริงและดอกบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น จะหักล้างกับมาร์จิ้นที่ดีขึ้นที่ได้แรงหนุนจากกลุ่ม non-MSC แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ BJC โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7.1% และการเติบโตระยะยาว 2.5%) ใหม่เป็น 24 บาท (จาก 27 บาท)

กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1.2 พันลบ. +2% YoY และ +187% QoQ เป็นไปตามตลาดคาด เมื่อหักกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 25 ลบ. ออกไป พบว่ากำไรปกติ 2Q67 อยู่ที่ 1.2 พันลบ. -2% YoY แต่ +22% QoQ กำไรปกติที่ลดลงเล็กน้อย YoY เกิดจากอัตราภาษีที่แท้จริงและดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ซึ่งไปหักล้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย EBIT margin ที่กว้างขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ดีขึ้น BJC ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H67 ที่ 0.15 บาท/หุ้น (XD วันที่ 27 ส.ค.)

ยอดขายใน 2Q67 ยอดขายเติบโต 1% YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นในกลุ่ม PSC และกลุ่ม CSC รายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ (MSC) อยู่ในระดับทรงตัว YoY เนื่องจากการขยายสาขาช่วยชดเชย SSS ที่หดตัวลง SSS (ไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B) ลดลง 1.9% YoY (เทียบกับ +4.8% YoY ใน 2Q66 และ +0.1% YoY ใน 1Q67) จากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่ซบเซา โดยตัวเลขติดลบในเดือนเม.ย. และพ.ค. แต่ตัวเลขเป็นบวกในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้จากยอดขายทั้งหมด สัดส่วนยอดขายสินค้าอาหารสดและอาหารแห้งเติบโต YoY แต่สัดส่วนยอดขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารลดลง YoY ใน 2Q67 BJC ได้เปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศลาว 1 สาขา ฟู้ดเซอร์วิส 1 สาขา ร้านขายยาเพรียว 1 สาขา บิ๊กซี มินิ 5 สาขาในประเทศไทย (หลังจากหักสาขาที่ปิด) และได้มีการปิดบิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต ฮ่องกง จำนวน 7 สาขา รายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ (PSC) เติบโต 4% YoY เนื่องจากยอดขายบรรจุภัณฑ์กระป๋องที่ดีขึ้น (+14% YoY) ในประเทศไทยและประเทศเวียดนามจากปริมาณขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมและกาแฟที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยยอดขายบรรจุภัณฑ์แก้วที่ลดลง (-4% YoY) จากปริมาณขายที่ลดลงของหมวดหมู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค (CSC) เติบโต 2% YoY จากยอดขายกลุ่มธุรกิจอุปโภคที่ดีขึ้น (+2% YoY) จากยอดขายในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น

รายการอื่นๆ ใน 2Q67 อัตรากำไรขั้นต้น กว้างขึ้น 140bps YoY สู่ 20.3% โดยได้รับการสนับสนุนจากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นในกลุ่ม MSC (+90bps YoY) จากการบริหารจัดการด้านโปรโมชั่นและโลจิสติกส์ได้ดีขึ้น และการมีสัดส่วนการขายที่ดีขึ้น โดยสัดส่วนยอดขายสินค้า private label ที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นสู่ 12.6% (เทียบกับ 12% ใน 2Q66) และสัดส่วนยอดขายกลุ่ม B2B และร้านโดนใจที่ให้มาร์จิ้นต่ำลดลงสู่ 6.8% (เทียบกับ 9.1% ใน 2Q66), กลุ่ม PSC (+420bps YoY) จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ค่าไฟ โซดาแอซ และอลูมิเนียมที่ลดลง และกลุ่ม CSC (+150ps YoY) จากยอดขายกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ให้มาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนเยื่อกระดาษที่ลดลง EBIT margin กว้างขึ้น 80bps YoY สู่ 8.3% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้น (+30bps YoY) จากค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาที่สูงขึ้น และรายได้อื่นที่ลดลง (-2% YoY จากรายได้ค่าสาธารณูปโภคที่ลดลงท่ามกลางรายได้ค่าเช่าที่ทรงตัว และอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 86.8% เทียบกับ 86.3% ใน 2Q66 และ 86.1% ใน 1Q67) ดอกเบี้ยจ่าย เพิ่มขึ้น 11% YoY จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น อัตราภาษีที่แท้จริง อยู่ที่ 22% (เทียบกับ 12% ใน 2Q66 และ 27% ใน 1Q67) เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันไม่สามารถรับรู้ผลขาดทุนทางภาษียกมาได้ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน เพิ่มขึ้นสู่ 18 ลบ. (เทียบกับ -27 ลบ. ใน 2Q66 และ -45 ลบ. ใน 1Q67) โดยกำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศมาเลเซียปรับตัวดีขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการมุ่งเน้นลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้นแทนอุตสาหกรรมเครื่องดื่มก่อนหน้านี้ 

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และนโยบายรัฐบาลใหม่ ปัจจัยเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และแนวปฏิบัติด้านแรงงาน/การจ้างงาน (S)

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  BJC240814_T

2Q24 core profit was Bt1.2bn, -2% YoY but +22% QoQ, in-line with market estimates. With fragile consumption sentiment, we expect SSS to continue to contract in 3Q24TD to close to 2Q24’s -1.9% YoY. We trim our 2024F by 3%, factoring in its weak sales YTD. We expect 3Q24F core earnings to be this year’s low, with relatively stable earnings YoY with unexciting sales growth, higher effective tax rate and interest expenses offsetting a better margin led by the non-MSC unit, but down QoQ on seasonality. We maintain NEUTRAL with a new end-2024 DCF (WACC of 7.1% and LT growth of 2.5%) TP of Bt24 (from Bt27).

2Q24 net profit was Bt1.2bn, +2% YoY and +187% QoQ, in line with market estimates. Excluding a Bt25mn FX gain, 2Q24 core profit was Bt1.2bn, -2% YoY but +22% QoQ. The slip YoY was due to a higher effective tax rate and higher interest expenses that offset the slight rise in sales, wider EBIT margin, and better equity income. BJC announced a 1H24 DPS of Bt0.15 (XD on Aug 27).

2Q24 sales. Sales grew 1% YoY on improvement in the PSC and CSC units. Modern retail supply chain (MSC) revenue was stable YoY, with store expansion balancing SSS contraction. SSS (excluding B2B sales) fell 1.9% (vs +4.8% YoY in 2Q23 and +0.1% YoY in 1Q24) from weak consumption with negative figures in April and May but positive in June. Of total sales mix, fresh and dry food products sales proportion grew YoY, but non-food products sales contracted YoY. In 2Q24, it opened a new hypermarket in Laos, a new food service store, a new Pure drugstore, 5 Big C Mini stores in Thailand (net of closures) and closed 7 BigC HK supermarkets. Packaging supply chain (PSC) revenue grew 4% YoY, with better can packaging sales (+14% YoY) in Thailand and Vietnam as higher sales volume of soft drinks and coffee offset lower glass packaging sales (-4% YoY) from lower sales volume in alcohol categories. Consumer supply chain (CSC) revenue grew 2% YoY from better non-food sales (+2% YoY) upon better personal care sales.

2Q24 other items. Gross margin widened 140bps YoY to 20.3% on a better margin at MSC (+90bps) YoY from better promotional & logistics management and a better sales mix, with a rise in high-margin private label sales to 12.6% (vs 12% in 2Q23) and a fall in low-margin B2B & Donjai sales to 6.8% (vs 9.1% in 2Q23), and at PSC (+420bps YoY) from lower natural gas, utilities, soda ash and aluminum costs and at CSC (+150bps YoY) from more high-margin personal care item sales and lower pulp costs. EBIT margin widened 80bps YoY to 8.3% as a wider gross margin outpaced higher SG&A/sales (+30bps YoY) from higher store expansion expenses and lower other income (-2% YoY from lower utility income, amid stable rental income with higher occupancy rate of 86.8% vs 86.3% in 2Q23 and 86.1% in 1Q24). Interest expenses rose 11% YoY from higher cost of funds. Effective tax rate was 22% (vs 12% in 2Q23 and 27% in 1Q24), as its current retail business structure makes it unable to realize tax loss carried forward. Equity income rose to Bt18mn (vs -Bt27mn in 2Q23 and -Bt45mn in 1Q24), with better earnings from the glass packaging unit in Malaysia on improvement in production efficiency and more focus on clients in the food industry, shifting from the earlier focus on the beverage industry.

Key risks are changes in purchasing power, an inflation-led rise in costs and higher interest rate and new government policies. Key ESG risks are energy management, sustainable products (E), and labor/employment practices (S).    

Click here to read and/or download file  BJC240814_E
Most Read
Related Articles
Most Read