![]() เราคาดว่า CENTEL จะรายงานกำไรปกติ 200 ลบ. ใน 2Q66 เพิ่มขึ้นมากจากกำไรสุทธิเพียง 22 ลบ. ใน 2Q65 จากฐานต่ำ แต่ลดลง 67% QoQ เพราะถูกฉุดรั้งโดยการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมที่อ่อนแอลงตามฤดูกาล โดยเฉพาะในมัลดีฟส์ เรายังคงประมาณการกำไรไว้เหมือนเดิม และคาดการณ์ถึงกำไรที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 3Q66 โดยมีสาเหตุมาการจ่ายค่าเช่าจ่ายสูงขึ้น เราคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ CENTEL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 50 บาท/หุ้น เนื่องจากราคาหุ้นมี upside ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายของเรา พรีวิว 2Q62: ไตรมาสที่ชะลอตัว โดยส่วนใหญ่เกิดจากมัลดีฟส์ เราคาดว่า CENTEL จะรายงานกำไรปกติ 200 ลบ. ใน 2Q66 เพิ่มขึ้นมากจากกำไรสุทธิเพียง 22 ลบ. ใน 2Q65 จากฐานต่ำ แต่ลดลง 67% QoQ เพราะถูกฉุดรั้งโดยการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมที่อ่อนแอลงตามฤดูกาล โดยเฉพาะในมัลดีฟส์ CENTEL จะประกาศผลประกอบการวันที่ 15 ส.ค. สมมติฐานของเรา
คาดกำไร 3Q66 ไม่น่าตื่นเต้น เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566 ไว้เหมือนเดิม เนื่องจากพรีวิว 2Q66 บ่งชี้ว่ากำไร 1H66 จะคิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา และ 46% ของประมาณการกำไรเต็มปีของ consensus เราคาดว่ากำไรปกติ 3Q66 ของ CENTEL จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจะถูกลดทอนไปบางส่วนโดยการจ่ายค่าเช่าสูงขึ้น เมื่อวันที่ 15 พ.ค. CENTEL ได้ทำการต่อสัญญาเช่าสำหรับ Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin (6% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งประกอบด้วยสัญญาเช่าช่วงที่ดิน อาคาร และทรัพย์สิน เพื่อปลูกสร้างเป็นระยะเวลา 4 ปี และสัญญาเช่าช่วงที่ดิน อาคาร และทรัพย์สิน เพื่อการจัดหาประโยชน์เป็นระยะเวลา 30 ปี CENTEL ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเช่าใหม่ จากบทสัมภาษณ์ของ รฟท. ในหนังสือพิมพ์ เราคาดว่าค่าเช่าจะอยู่ที่ ~190 ลบ./ปี สูงกว่า ~100 ลบ./ปี ในปีล่าสุด CENTEL วางแผนปรับปรุงโรงแรมเดิมและสร้างโรงแรมใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าของสินทรัพย์ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด คงเรทติ้ง NEUTRAL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราอยู่ที่ 50 บาท/หุ้น อ้างอิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ CENTEL เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นดูไม่น่าตื่นเต้น และราคาหุ้นมี upside ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายของเรา ปัจจัยเสี่ยง คือ 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ 2) ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร |