DELTA รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 5.9 พันลบ. -10.0% QoQ แต่ +8.9% YoY ซึ่งสูงกว่าที่ INVX และตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่แข็งแกร่งกว่าคาดและการกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงคลัง เราคาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่องใน 4Q67 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราประเมินในเบื้องต้นได้ว่าผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติจะอยู่ที่ 12.4% ของกำไรปกติปี 2568 เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ DELTA โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 109 บาท อ้างอิง +0.5SD ของ PE เฉลี่ย 5 ปี
DELTA - 3Q67: กำไรปกติที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนจากสินค้าเกี่ยวกับ AI
กำไรปกติ 3Q67 ที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI DELTA รายงานกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 5.9 พันลบ. สูงกว่า INVX คาด 6% และสูงกว่าตลาดคาด 5% หลักๆ เกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI กำไรสุทธิ 3Q67 ลดลง 10% QoQ จากผลกระทบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เพิ่มขึ้น 8.9% YoY จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่งในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ กำไรปกติใน 3Q67 อยู่ที่ 6.0 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6.3% QoQ และ 18.7% YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 3.5% QoQ (+8% QoQ ในรูปสกุลเงินดอลลาร์) และ 6.8% YoY (+8% YoY ในรูปสกุลเงินดอลลาร์) เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ AI กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ mobility จากความต้องการผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับ EV ที่ฟื้นตัวดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 27.6% ใน 3Q67 จาก 26.9% ใน 2Q67 และ 22.6% ใน 3Q66 หลักๆ ได้แรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่มีมาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น จากทั้ง power system สำหรับ data center และผลิตภัณฑ์ DC power นอกจากนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 13.7% ใน 3Q67 จาก 12.9% ใน 2Q67 และ 10.1% ใน 3Q66 เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Taiwan เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้บริษัทต้องจ่ายค่าบริการด้านเทคนิคให้กับ DELTA Taiwan เพิ่มขึ้น
แนวโน้มกำไร 4Q67 ยังคงได้รับการสนับสนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI DELTA ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายปี 2567 จาก 10-20% เป็น 10-15% (INVX คาดการณ์ที่ 14%) โดย DELTA ยังคงคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ generative AI และ co-location service ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ DC power system ที่ช่วยสนับสนุนความต้องการ GPU data center ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ต่อรายได้รวมยังคงเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูง โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ power system ระดับ rack ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง รวมถึง liquid cooling system จะมีเข้ามาบ้างใน 4Q67 แต่น่าจะเห็นชัดเจนมากขึ้นในปี 2568 ในขณะที่ mobility EV power อาจจะเติบโตต่ำกว่าคาด จึงมีการปรับลดมุมมองการเติบโตลงสู่ระดับที่เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวในปี 2567 (จากเดิม +/- 20% YoY, vs 9M67 ที่ +7.4% YoY) โดยปัจจุบันเห็นภาพคำสังซื้อแค่ 3-6 เดือนเท่านั้น สำหรับเป้าอัตรากำไรขั้นต้น ทาง DELTA ขยับขึ้นจาก 23-24% มาเป็น 24-25% ในปี 2567 เทียบกับประมาณการของเราที่ 24.2% ค่าใช้จ่าย SG&A มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก royalty fee ที่จ่ายให้กับ DELTA Taiwan แต่ทางบริษัทพยายามจะควบคุมให้ไม่เกิน 13% ทั้งนี้กำไรปกติ 9M67 คิดเป็น 73% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เรายังคงประมาณการกำไรปี 2567-2568 ของเราไว้เหมือนเดิม
ผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติ สำหรับการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติ ที่จะบังคับให้บริษัทข้ามชาติที่มีรายได้เกิน 770 ล้านยูโร/ปี ต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 15% นั้น ปัจจุบันรัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาออก พรบ. ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดอาจจะเปลี่ยนเป็นการออก พรก. ซึ่งมีความง่ายในการออกมากกว่า ซึ่งหากเกิดขึ้นเร็วอาจจะเริ่มปีหน้า ซึ่งจะทำให้ DELTA ต้องเสียภาษีขึ้นมาเป็น 15% จากปัจจุบันที่มี effective tax rate อยู่ที่เพียง 2.4% อย่างไรก็ดี BOI อาจจะออกมาตรการช่วยเหลือลดผลกระทบ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดออกมา ปัจจุบันเราใช้สมมติฐาน effective tax rate ที่ 3% สำหรับปี 2568 ถ้ามาตรการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติมีผลบังคับใช้ เราคาดว่าประมาณการกำไรปกติปี 2568 ของเราจะปรับลดลง 12.4% จากที่เราคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ DELTA โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 109 บาท อ้างอิง PE 59 เท่า หรือ +0.5SD ของ PE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอกว่าคาด และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจัย ESG ที่สำคัญ คือ การจัดการแรงงาน และซัพพลายเออร์