กำไรปกติ 3QFY68 ของ FTREIT อยู่ที่ 718 ลบ. (+8.3% YoY, +2.4% QoQ) ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการทั้งปี การดำเนินงานที่แข็งแกร่งใน 3QFY68 ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในพอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 91.5% จาก 86% ใน 3QFY67 และ 90% ใน 2QFY68 อัตราการต่อสัญญาเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 85% และมีการปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น 1.5-3% สำหรับโรงงาน และ 1-1.5% สำหรับคลังสินค้า แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับสินค้าสวมสิทธิ์ แต่ภาพรวมยังคงเป็นบวก โดยคาดว่าความต้องการเช่าที่มีอย่างต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนให้กำไรปกติ 4QFY68 เติบโต YoY เราคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ FTREIT โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี FY2569 อ้างอิงวิธี DDM ที่ 12.6 บาท (WACC 5.8% และการเติบโตระยะยาว 0.3%)
สรุปผลประกอบการ 3QFY68 (เม.ย.-มิ.ย. 2568) FTREITรายงานกำไรสุทธิ 3QFY68 ที่ 820 ลบ. เพิ่มขึ้น 33.3% YoYแต่ลดลง 8.2% QoQ เมื่อหักกำไรจากเงินลงทุน (รายการที่ไม่ใช่เงินสด) ออก กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 718 ลบ. เพิ่มขึ้น 8.3% YoY และ 2.4% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่ INVX คาดไว้ กำไรจากการดำเนินงานปกติใน 9MFY68 คิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามคาด รายได้รวมอยู่ที่ 1.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 8.4% YoY และ 1% QoQ โดยการเติบโตของรายได้ทั้ง YoY และ QoQ นั้นเป็นผลมาจากความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่มีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้า นอกจากนี้ FTREIT ยังประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.19 บาท/หน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2% XD วันที่ 26 ส.ค.
รายการที่เกี่ยวกับการดำเนินงานใน 3QFY68 แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงาน 3QFY68 ของ FTREIT แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของโรงงานและคลังสินค้าในพอร์ตของกองทรัสต์เพิ่มขึ้นเป็น 91.5% จาก 86.0% ใน 3QFY67 และ 90.0% ใน 2QFY68 การเติบโตดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากสินทรัพย์ทั้งสองประเภท โดยอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 96.3% จาก 88.5% ใน 3QFY67 และ 93.9% ใน 2QFY68 อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 88.2% จาก 84.2% ใน 3QFY67 และ 87.2% ใน 2QFY68 อัตราการต่อสัญญาเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 85% จาก 83% ในไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของกองทรัสต์ที่มีอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมการประชุมเป็นบวกเล็กน้อย เมื่อวานนี้เราได้ร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ที่ FTREIT จัดขึ้น ซึ่งภาพรวมเป็นบวกเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับอัตราภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ (transshipment rate) ที่ 40% สำหรับประเทศไทย แต่ FTREIT ยังไม่เห็นสัญญาณเชิงลบจากผู้เช่าปัจจุบันที่จะยกเลิกสัญญา รวมถึงผู้เช่ารายใหม่ที่ยังเห็นความต้องการต่อเนื่อง โดยอัตราค่าเช่าสำหรับโรงงานให้เช่ายังเติบโตในเดือนก.ค.และส.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราค่าเช่าในส่วนของคลังสินค้าจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า การปรับขึ้นค่าเช่ายังทำได้ดีต่อเนื่องเช่นกัน โดยการต่อสัญญาในส่วนของโรงงานให้เช่าจะสามารถขึ้นค่าเช่าได้ที่ 1.5-3% แล้วแต่พื้นที่ และ 1-1.5% สำหรับคลังสินค้า
กำไรปกติ 4QFY68 น่าจะเติบโต YoY เราเชื่อว่ากำไรปกติ 4QFY68 จะเติบโต YoY อย่างต่อเนื่อง แต่จะลดลง QoQ โดยการเติบโต YoY จะได้รับการสนับสนุนจากความต้องการเช่าที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของโรงงานให้เช่า (~45% ของรายได้ค่าเช่า) ขณะที่การปรับตัวลดลง QoQ จะเกิดจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล
ความเสี่ยงและความกังวล แม้ว่าประเด็นอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ที่ 40% ว่าจะทำให้ FDI จากจีนลดลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลกระทบต่อ FTREIT ในระยะสั้นมีจำกัด เนื่องจากสัญญาเช่ามีอายุ 3 ปี
FTREIT's 3QFY25 core profit was Bt718mn (+8.3% YoY, +2.4% QoQ), on track with full-year projections. Strong operations in 3QFY25 lifted portfolio occupancy to 91.5% from 86% in 3QFY24 and 90% in 2QFY25. Renewal rate rose to 85% with rates raised 1.5-3% for factories and 1-1.5% for warehouses. Despite transshipment concerns, the outlook is good, with sustained tenant demand expected to support 4QFY25F core earnings growth YoY. We maintain OUTPERFORM with a end-FY2026F DDM-based TP of Bt12.6 (5.8% WACC and 0.3% LTG).
Recap 3QFY25 (Apr–Jun 2025) results. FTREIT reported a net profit of Bt820mn, growing 33.3% YoY but falling 8.2% QoQ. Excluding non-cash investment gains, core operating profit stood at Bt718mn, up 8.3% YoY and 2.4% QoQ, aligning with INVX. Core profit for 9MFY25 now represents 77% of its full-year projection, on track to meet it. Total revenue was Bt1.1bn, up 8.4% YoY and 1% QoQ, with growth in both periods attributed to consistent demand for factory and warehouse rentals despite ongoing trade tariff uncertainties. FTREIT announced a DPU of Bt0.19, yielding 2%, with XD on Aug 26.
Strong operating items in 3QFY25. Operating performance in 3QFY25 showed resilience amid US trade tariff uncertainties. The portfolio's average occupancy rate grew to 91.5% from 86.0% in 3QFY24 and 90.0% in 2QFY25, supported by both asset types: factory occupancy rose to 96.3% from 88.5% YoY and 93.9% QoQ and warehouse occupancy grew to 88.2% from 84.2% YoY and 87.2% QoQ. The renewal rate climbed to 85% from 83% in the prior quarter, reflecting sustained demand for its assets.
Slightly positive tone from the meeting. Yesterday, we attended an analyst briefing with slightly positive tone. Despite concerns regarding a 40% transshipment rate for Thailand, FTREIT has not observed negative signals from current tenants in terms of contract cancellations. New tenant demand remains, with rental rate for ready-built factories growing in July and August. Warehouse occupancy is expected to stay high from the prior quarter. Rental rate adjustments continue, with factory renewal rents seeing increases of 1.5-3% depending on the location, and warehouse renewal rents rising 1-1.5%.
4QFY25F core earnings to grow YoY. We believe core earnings will continue growing YoY, but fall QoQ. The YoY growth will come from ongoing rental demand, especially for the factory segment (~45% of rental income). The QoQ drop is expected to arise from seasonally higher opex.
Risks and concerns. Although the tariff rate is clearer, there is still uncertainty over the impact of the transshipment rate of 40%, whether it will deter FDI from China. However, we see limited near-term impact on FTREIT as its leases run for three years.
Download PDF Click > FTREIT250821_E.pdf