Keyword
HANA
PDF Available  
Company Update

HANA - 3Q67: กำไรปกติต่ำกว่าคาดจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ

By ชัยวัฒน์ อาศิระวิชัย|20 Nov 24 8:18 AM

กำไรปกติ 3Q67 อยู่ที่เพียง 21 ลบ. ต่ำกว่าที่เราและ consensus คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก โดยเกิดจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ แนวโน้ม 4Q67 ยังคงท้าทายจากอุปสงค์ที่อ่อนแอต่อเนื่องในธุรกิจ EMS/IC/PMS สืบเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลดลง 39% และปี 2568 ลดลง 29% เพื่อสะท้อนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอกว่าคาด เราคาดว่าอุปสงค์โดยรวมจะยังคงอ่อนแอ YoY ใน 1H68 ดังนั้นเราจึงปรับคำแนะนำสำหรับ HANA ลดลงจาก OUTPERFORM สู่ NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ใหม่เป็น 33 บาท (จาก 42 บาท) อ้างอิง PE เฉลี่ย 5 ปีที่ 19 เท่า

สรุปผลประกอบการ 3Q67 HANA รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 406 ลบ. -44.7% YoY แต่ +7.9% QoQ หากหักกำไรที่เป็นรายการพิเศษจากการคืนเงินลงทุนในกองทุนซัพพลายเชนจำนวน US$8.54 ล้าน (299.4 ลบ.) และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 55 ลบ. ใน 3Q67 ออกไป พบว่ากำไรปกติของ HANA อยู่ที่เพียง 21 ลบ. ใน 3Q67 ต่ำกว่าที่เราและ consensus คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก โดยกำไรปกติ 3Q67 ลดลงกว่า 97% YoY และ 96% QoQ จากยอดขายที่อ่อนแอเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์จากความกังวลเกี่ยวนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ และความต้องการ EV ในจีนที่อ่อนแอซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขาย PCBA (-5% YoY), IC (-15% YoY) และ Micro display (+18% YoY) อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมก็ลดลงสู่ 6.2% ลดลง 950bps YoY และ 620bps QoQ ซึ่งเป็นผลมาจาก: 1) การปรับมูลค่าสินค้าคงคลังที่เป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจาก 36 บาท/US$ มาอยู่ที่ 32 บาท/US$ และ 2) ผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบสูง ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐใน 3Q67 เนื่องจากมีการซื้อวัตถุดิบหลักๆ ล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนการผลิต

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหาร HANA ประเมินว่าผลกระทบหลังทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้งที่มีนโยบายเพิ่มภาษีนำเข้า โดยเฉพาะลูกค้าของ HANA ที่พยายามลด สินค้าคงคลังลงให้มากที่สุด ระยะสั้นจึงได้รับผลกระทบต่อปริมาณคำสั่งซื้อ ทั้งในส่วนธุรกิจ IC และธุรกิจ EMS) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเนื่องมาถึง 4Q67 ขณะที่ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV โดยเฉพาะธุรกิจ PMS (ผลิตภัณฑ์ Silicon Carbide) ก็มีปริมาณความต้องการที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นความต้องการปรับตัวดีขึ้นในช่วงกลางปี 2568 โดยจุดคุ้มทุนที่ระดับ EBTIDA เลื่อนไปเป็นปลายปี 2568 จากช่วงกลางปี 2568สำหรับธุรกิจ OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ยังคงเผชิญกับความต้องการที่ลดลงเนื่องจากลูกค้าพยายามที่จะลดระดับสินค้าคงคลังลง สำหรับธุรกิจ RFID (13% ของรายได้รวม) คาดว่าจะเติบโตได้ใน 4Q67 และ ปี 2568 หลังจากได้รับ Auburn Certificate แล้ว โดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจ RFID จะเติบโต 20% ในปี 2568 สำหรับ FT1 เป็นการร่วมทุนระหว่าง HANA และ PTT (ถือหุ้นโดย HANA 49% และ PTT 51%) เพื่อศึกษาโอกาสลงทุนในโรงงาน wafer fabrication บริษัทจะประเมินสถานการณ์และภาพรวมตลาดในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาพิจารณาเรื่องไทม์ไลน์และขนาดของการลงทุนอีกครั้ง   

ปรับประมาณการกำไรปี 2567-2568 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลดลง 39% และปี 2568 ลดลง 29% เพื่อสะท้อนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด โดยแม้เราคาดว่ากำไรปกติ 4Q67 จะฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อยหลังไม่มีการปรับมูลค่าสินค้าคงคลังแล้ว แต่แนวโน้มอุปสงค์ยังคง อ่อนแอจากทั้งจากธุรกิจ EMS IC และ PMS เรายังคงคาดว่าอุปสงค์โดยรวมจะชะลอตัวลง YoY ใน 1H68 ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นใน 2H68 ดังนั้นเราจึงปรับลดคำแนะนำสำหรับ HANA ลงจาก OUTPERFORM สู่ NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ใหม่เป็น 33 บาท (จากเดิม 42 บาท) โดยอิงกับ PE เฉลี่ย 5 ปีที่ 19 เท่า

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การจัดการแรงงาน และซัพพลายเออร์ (S)

Stocks Mentioned
HANA.BK
Author
Slide13
ชัยวัฒน์ อาศิระวิชัย

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มวัสุดก่อสร้าง ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิก และสินทรัพย์ดิจิทัล

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5