แม้เราคาดว่ามูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังภายในประเทศจะเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 2-3% ในปี 2568 แต่คาดว่ากำไร 4Q268 ของ OSP จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและยอดขายต่างประเทศ รวมถึงการควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ดี การปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 เพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 3.69 พันลบ. (+129%) สำหรับปี 2569 เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเพียง 4.3% เป็น 2.66 หมื่นลบ. โดยมีกำไรสุทธิ 3.6 พันลบ. (ทรงตัวจากปี 2568) เรายังคงคำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับ OSP ไว้ที่ NEUTRAL โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 20 บาท อ้างอิง -2SD PE ที่ 16.8 เท่า
เป้าเติบโตในปี 2569 ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้นเล็กน้อย OSP ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในระดับ mid-single-digit ในปี 2569 โดยจะมีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้น และขยายสู่ตลาดประเทศใหม่ๆ เช่น ประเทศจีน บริษัทจะยังคงใช้กลยุทธ์ราคาสองระดับในกลุ่มเครื่องดื่ม (10 บาท และ 12 บาทและมากกว่า) เช่นเดียวกับเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ไม่มีการตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดเล็กน้อยในปี 2569 แต่คาดจะต่ำกว่าส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยของปี 2567 สำหรับงบลงทุนปี 2569 จะมีงบลงทุน 500 ลบ. สำหรับนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และการจัดจำหน่าย ทั้งของ OSP และบริษัทย่อย เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลของบริษัท รวมอยู่ด้วย
กำไรสุทธิ 3Q68 ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ OSP รายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 700 ลบ. ซึ่งใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 695 ลบ. รายได้รวมอยู่ที่ 5.6 พันลบ. (-7.3% YoY และ -17.7% QoQ) โดยยอดขายเครื่องดื่มรวมเพิ่มขึ้น 0.4% YoY แต่ลดลง 18.3% QoQ ซึ่งถูกฉุดลงจากการลดลงของยอดขายต่างประเทศที่ -14.8% YoY และ -56.1% QoQ ในขณะที่ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 4.7% YoY และ 2.4% QoQ ยอดขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลลดลง 5.4% YoY และ 8.4% QoQ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 38.5% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ดีขึ้นจาก 36.1% ใน 3Q67 จากประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แต่ลดลงจากจุดสูงสุดใน 2Q68 ที่ 41.9% ทำให้กำไรสุทธิ 9M68 ของ OSP อยู่ที่ 2.97 พันลบ. (+177% YoY) โดยมีกำไรปกติอยู่ที่ 2.68 พันลบ. (+10.8%)
ปรับประมาณการปี 2568 เล็กน้อย; คงประมาณการปี 2569 ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศขยายตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยอยู่ที่เพียง 44% ซึ่งถูกฉุดรั้งโดยผลิตภัณฑ์หลักอย่าง M-150 ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการรายได้ปี 2568 ลดลง 5.6% เป็น 2.55 หมื่นลบ. (-5.4% จากประมาณการเดิม) แต่ได้รับการชดเชยจากสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งขึ้นที่ 39.2% (เพิ่มขึ้นจาก 37.3% ในปี 2567) อัตราภาษีที่แท้จริงที่ต่ำ และการควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ได้ดี ส่งผลให้เราคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 3.69 พันลบ. (+129%) เพิ่มขึ้น 3.7% จากประมาณการเดิม ในปี 2569 เราคาดว่า OSP จะยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราคา 10 บาท/ขวด ซึ่งจะทำให้เติบโตจำกัด โดยการเติบโตหลักๆ จะมาจากยอดขายต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล เราคาดว่าบริษัทจะควบคุมต้นทุนได้ดีผ่านการลดต้นทุน เราคาดการณ์รายได้ปี 2569 ที่ 2.66 หมื่นลบ. (+4.3%) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 3.6 พันลบ. (ทรงตัว YoY) และการเติบโตของกำไรปกติที่ 7.2%
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล การแย่งยอดขายกันเองระหว่างสินค้าของบริษัท ความเคลื่อนไหวของส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในปี 2568 ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบหลักๆ การบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอลง และเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงนโยบายของกลุ่มประเทศ CLMV ความเสี่ยงด้าน ESG: การบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ (S) และสวัสดิภาพของลูกค้า (S)
Expecting growth in 4Q25F
Although we expect only small 2-3% growth in energy drink market value in 2025, OSP’s 4Q25F profit is expected to grow both YoY and QoQ, backed by recovery in domestic consumption and overseas sales and good control over gross margin and other expenses. We have adjusted our gross margin assumption, which raises our 2025F net profit forecast by 3.7% to Bt3.69bn (+129%). In 2026F, revenue will move up just 4.3% to Bt26.6bn with net profit of Bt3.6bn (flat from 2025). We maintain our tactical call of Neutral with a 2026 TP of Bt20.00, based on -2SD PE of 16.8x
Growth in 2026F with a bit more aggressive strategy. OSP targets mid-single-digit growth in total revenue in 2026, with more new product innovation and entry into new countries like China. It will keep its two-tier pricing in the beverage segment (Bt10 and Bt12 and up), i.e. for energy drinks, but did not provide domestic energy drink market share numbers. We expect to see a slight growth in market share in 2026 but less than 2024’s average. 2026 capex will include Bt500mn for innovation, digital technology and distribution for both OSP and subsidiaries, to develop their data systems.
3Q25 net profit in line. OSP reported 3Q25 net profit of Bt700mn, in line with our forecast of Bt695mn. Total revenue was Bt5.6bn (-7.3% YoY and -17.7% QoQ) with total beverage sales up 0.4% YoY but down 18.3% QoQ, pulled down by a drop of 14.8% YoY and 56.1% QoQ in overseas sales against a rise in domestic sales of 4.7% YoY and 2.4% QoQ. Personal care sales dropped 5.4% YoY and 8.4% QoQ from lower consumer spending. Average gross margin was 38.5%, in line with estimates, improved from 3Q24’s 36.1% from greater efficiency, but down from peak in 2Q25 at 41.9%. This brought OSP’s 9M25 net profit to Bt2.97bn (+177% YoY) with core profit of Bt2.68bn (+10.8%).
Slight adjustment in 2025F; maintain 2026F. Its domestic energy market share expanded slower than expected to just 44%, held back by flagship product M-150. In response, we have revised down our 2025F revenue forecast by 5.6% to Bt25.5bn (-5.4% from earlier), with an offset from a strong gross margin assumption of 39.2% (up from 37.3% in 2024), a low effective tax rate and well-controlled SG&A to revenue, giving a net profit forecast of Bt3.69bn (+129%) up 3.7% from our previous forecast. In 2026, we expect OSP to continue to face tight competition in the Bt10/bottle energy drink market that will limit growth, with growth led by overseas and personal care. We also expect good control over costs via cutting costs. We forecast 2026F revenue of Bt26.6bn (+4.3%) with a net profit of Bt3.6bn (flat YoY), with core profit growth of 7.2%.
Risks and concerns.
Download PDF Click > OSP251120_E.pdf