ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลง 6% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา underperform SET ท่ามกลางราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง (เบรนท์ลดลง 3%) ทั้งนี้แม้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง แต่การปรับกลยุทธ์เพื่อก้าวเป็นบริษัทพลังงานที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศผ่านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ทำให้ PTTEP มีพอร์ตลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ ESG และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน เราคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ PTTEP โดยปรับราคาเป้าหมาย (กลางปี 2569) อ้างอิงวิธี DCF เป็น 147 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2569 เป็น US$66 และในระยะยาวเป็น US$64 ปัจจุบันหุ้น PTTEP ซื้อขายที่ PBV (ปี 2569) ระดับ 0.8 เท่า (-1.2SD) และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.9%
ปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 14% จากระดับกว่า US$80/bbl ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ US$67-68/bbl ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มอุปทานของกลุ่มโอเปกพลัส ทั้งนี้แม้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงดำเนินต่อไป แต่เส้นกราฟราคาล่วงหน้า (forward curve) บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ในช่วง US$66–68/bbl จนถึงสิ้นปี 2568 ดังนั้นเราจึงปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในปี 2569 ลดลงเป็น US$70/bbl และปรับสมมติฐานปี 2569 และสมมติฐานระยะยาวลดลงเป็น US$66 และ US$64 ตามลำดับ เพื่อสะท้อนช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานที่กว้างขึ้น เรายังคงคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลงต่อเนื่องในปี 2569
ผลกระทบต่อ ASP ในปี 2568 ลดลง สัดส่วนปริมาณการขายก๊าซสูงที่ >71% น่าจะช่วยลดผลกระทบจากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันลดลงใน 2568 โดยจะทำให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ลดลงเพียง 1% จากประมาณการเดิมมาอยู่ที่ US$44.3/BOE ด้วยต้นทุนต่อหน่วยที่ US$30±/BOE EBITDA margin ของ PTTEP น่าจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 70-75%
เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ PTTEP กำลังพัฒนาจากการเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพลังงานต้นน้ำแบบดั้งเดิมไปสู่บริษัทพลังงานที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศท่ามกลางสภาวะราคาน้ำมันที่ลดลง โรดแมปการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โครงการนำร่องพลังงานหมุนเวียน และการลงทุนที่พิจารณาปัจจัยด้าน ESG ช่วยเพิ่มความน่าสนใจสำหรับพอร์ตลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและผลตอบแทนที่ยั่งยืน PTTEP ถือเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงานของไทย โดยตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 พัฒนาการที่สำคัญ คือ การลงทุนในโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ที่แหล่งก๊าซอาทิตย์ ซึ่งมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 7 แสนตัน ถึง 1 ล้านตันต่อปี โดยคาดว่าจะมีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายภายในสิ้นปี 2568 โครงการนี้จะเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาศูนย์กลาง CCS ขนาดใหญ่ในมาบตาพุดบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard) หากมีความชัดเจนด้านกฎระเบียบและการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น
สิ่งที่คาดหวังใน 2H68 เราคาดว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะได้รับการชดเชยบางส่วนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นใน 2H68 เป็น 520-525kBOED (ไม่รวมแปลง A-18 ซึ่งเพิ่งเข้าซื้อมาเมื่อไม่นานนี้) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งปีที่ 505-510kBOED ปริมาณการขายน้ำมันที่ลดลงจะถูกชดเชยโดยความต้องการก๊าซที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาแข่งขันได้เมื่อเทียบกับ LNG นำเข้า โดยอาจมี upside จากแปลง A-18 ที่จะทำให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 17kBOED ในไตรมาสสุดท้าย แนวโน้มเช่นนี้จะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้นใน 2H68
ปรับราคาเป้าหมายลดลงเพราะปรับสมมติฐานราคาน้ำมันลดลง การปรับสมมติฐานราคาน้ำมันลดลงทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2570 ลดลง 7-10% (ดูรายละเอียดใน Figure 11) อีกทั้งยังทำให้เราปรับราคาเป้าหมาย (กลางปี 2569) ลดลงเป็น 147 บาท ซึ่งสะท้อนถึง PBV (ปี 2569) ที่ 1 เท่า เราคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ PTTEP เพราะราคาหุ้นมี discount ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ประเมินได้ด้วยวิธี DCF และงบดุลแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.1 เท่า (ดู Figure 12 สำหรับความอ่อนไหวของราคาเป้าหมายและกำไรต่อราคาน้ำมัน)
ปัจจัยเสี่ยง: 1) ราคาน้ำมันดิบผันผวน 2) ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น 3) การด้อยค่าของสินทรัพย์ และ 4) การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
PTTEP fell 6% over the past month, underperforming the SET amid weaker oil prices (Brent down 3%). Despite the downward trend of oil price, its strategic shift toward climate-resilient energy via decarbonization and renewables positions it well for ESG-focused portfolios with sustainable returns. We maintain our OUTPERFORM rating, with a revised TP (mid-2026) of Bt147 based on DCF, reflecting a cut in 2026 Brent oil price assumption to US$66 and in long-term to US$64. It is trading at PBV (2026F) of 0.8x (-1.2SD) and dividend yield of 6.9%.
Oil price assumptions cut. Brent crude is down 14% from over US$80/bbl in mid-June to US$67–68/bbl, driven by OPEC+ supply increases. Despite ongoing geopolitical tensions, the forward curve indicates prices will stay at US$66–68/bbl through yearend. We revise our 2025 average Brent forecast to US$70/bbl and cut 2026 and long-term assumptions to US$66 and US$64, respectively, reflecting a widening supply-demand gap. We continue to expect prices to fall into 2026.
Lower impact on ASP in 2025. The high proportion of gas sales volume at >70% should reduce the impact from lower oil price assumptions in 2025, allowing ASP to slip merely 1% from the previous forecast to US$44.3/BOE. With unit cost at US$30±/BOE, PTTEP’s EBITDA margin is expected to remain in the target 70-75%.
Transitioning to be a climate-resilient company. PTTEP is evolving from a traditional upstream operator into a climate-resilient energy company amid a lower oil price environment. Its decarbonization roadmap, renewable pilot projects, and ESG financing enhance its appeal for portfolios focused on energy transition and sustainable returns. PTTEP leads Thailand’s energy decarbonization with a Net Zero GHG target by 2050. A key milestone is the upcoming investment in carbon capture and storage (CCS) at the Arthit gas field, aiming to cut 700kt–1mt CO2 annually, with a final investment decision expected by end-2025. This could lay the groundwork for a large-scale CCS hub in Map Tha Put, Eastern Seaboard, pending regulatory clarity and stronger government support.
What to expect in 2H25. We expect lower oil price will be partly offset by higher sales volume in 2H25 to 520-525kBOED, excluding Block A-18, which was recently acquired, to meet full-year targets of 505-510kBOED. Lower oil loading will be offset by higher gas demand due to competitive pricing vs. imported LNG. There is potential upside from Block A-18 contributing an additional 17kBOED in the last quarter. This supports a stronger performance in 2H25.
TP cut on lower oil price assumption. With lower assumed oil prices, we lower our 2025-2027F by 7-10%. (see details in Figure 11:) This also prompted a cut in our TP (mid-2026) to Bt147, implying PBV (2026) of 1x. We stay OUTPERFORM on the tempting discount to DCF valuation and healthy balance sheet with net D/E of only 0.1x. (See Figure 12: for sensitivity of TP and earnings to oil price.)
Risk factors: 1) Volatile crude oil price, 2) higher unit cost, 3) asset impairment and 4) regulatory changes on GHG emissions. Key ESG risk factors are the environmental impact of its business and adapting to transition to clean energy.
Download PDF Click > PTTEP250903_E.pdf