QH รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 จำนวน 607 ลบ. (-7.4% YoY และ -4.2% QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น QoQ ส่งผลทำให้กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 2.5 พันลบ. (+4.5% YoY) สำหรับปี 2567 QH ตั้งเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทาย โดยตั้งเป้ายอด presales เติบโต 22% สู่ 9.2 พันลบ. สูงที่สุดในรอบ 6 ปี โดยได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 9.8 พันลบ. (+14%) โดยทั้งหมดเป็นโครงการแนวราบ แม้เราคาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิเติบโตในปี 2567 แต่ยังมีความเสี่ยง downside จากการแข่งขันที่สูงขึ้นในกลุ่มแนวราบ เรามองว่าการเติบโตสะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว ด้วย upside ที่มีจำกัดและ valuation ที่ไม่น่าสนใจ เราจึงคงคำแนะนำ tactical all สำหรับ QH ไว้ที่ UNDERPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 2.40 บาท/หุ้น (+0.25SD, PE 9.5 เท่า) QH ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 0.10 บาท/หุ้น (XD วันที่ 25 เม.ย.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.6% กำไรสุทธิ 4Q66 ลดลง YoY และ QoQ QH รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 จำนวน 607 ลบ. (-7.4% YoY และ -4.2% QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและอัตราภาษีที่แท้จริงที่ลดลง รายได้อยู่ที่ 2.29 พันลบ. (-9.2% YoY และ -2.4% QoQ) แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 83% (มูลค่าลดลง 13% YoY และ 4% QoQ) และรายได้จากค่าเช่าจากโรงแรมและอาคารสำนักงาน 17% (มูลค่าเพิ่มขึ้น 16% YoY และ 6% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 33.6% เทียบกับ 32.6% ใน 3Q66 และ 34.2% ใน 4Q65 โดยอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 31.6% และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจให้เช่าอยู่ที่ 43.7% ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมอยู่ที่ 440 ลบ. (+5.6% YoY และ +4.3% QoQ) หลักๆ เกิดจาก HMPRO อัตราภาษีที่แท้จริงลดลงสู่ 10% จากการกลับรายการภาษี ในปี 2566 รายได้ของ QH ลดลงเล็กน้อย 2.8% สู่ 8.9 พันลบ. และกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.5 พันลบ. (+4.5% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ 4%เป้ายอด presales ปี 2567 ค่อนข้างท้าทาย หลังจากลดลงในปี 2566 ในปี 2566 QH ทำยอด presales ได้ที่ 7.5 พันลบ. (-8%) โดย 88% เกิดจากโครงการแนวราบ (มูลค่าลดลง 10%) และที่เหลืออีก 12% เกิดจากคอนโด (มูลค่าเพิ่มขึ้น 5%) สำหรับปี 2567 QH ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายโครงการแนวราบ และตั้งเป้ายอด presales เติบโต 22% สู่ 9.2 พันลบ. สูงที่สุดในรอบ 6 ปี QH วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 9.8 พันลบ. (+14%) โดย 52% จะอยู่ในตลาดระดับกลาง และ 48% จะอยู่ในตลาดระดับบน ขณะที่เมื่อแยกตามประเภทผลิตภัณฑ์ 73% จะเป็นบ้านเดี่ยว และ 26% จะเป็นทาวน์เฮ้าส์กำไรปี 2567 จะเติบโตเล็กน้อย QH มี backlog มูลค่า 484 ลบ. ในปี 2567 โดย 97% เป็นโครงการแนวราบ และ 3% เป็นคอนโด เราคาดการณ์รายได้ปี 2567 ที่ 9.9 พันลบ. (+11.4%) โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 33.2% ดังนั้นเราจึงประเมินกำไรสุทธิได้ที่ 2.7 พันลบ. (+9.8%) โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (HMPRO, LHFG, QHPF และ QHHR) จำนวน 1.8 พันลบ. (+3%) คิดเป็น 66% ของกำไรสุทธิ เราคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q67 จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY และ QoQ ทั้งนี้ QH ทำยอด presales ใน 2M67 ได้แล้ว 900 ลบ.ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล ปัจจัยที่ต้องจับตา: 1) อัตราการปฏิเสธสินเชื่อและการยกเลิกยังสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการแนวราบระดับกลาง/กลุ่มลูกค้าระดับกลาง ซึ่ง QH วางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 5 พันลบ. ในขณะที่ความต้องการซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบนยังมีน้อย 2) แรงกดดันต่อมาร์จิ้นจากการเร่งระบายสต๊อกคอนโด |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก QH240229_T |