RJH รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 หดตัว 17.8%QoQ ตามผลฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 188%YoY จากฐานกำไรต่ำปีก่อนและการเติบโตที่ดีของรายได้ค่ารักษาโดยรวม หนุนให้ทั้งปี 2566 มีกำไรสุทธิ 420 ลบ. หดตัว 59%YoY ตรงตามที่เราคาดการณ์ ส่วนปี 2567 คงคาดมีกำไรสุทธิเติบโต 2.5%YoY โดยแม้รายได้จะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่คาดถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายของ รพ. ใหม่ที่จะเปิดปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัดจากราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 28 บาท และมองระยะสั้นยังขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น และการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานยังไม่ได้โดดเด่นจูงใจต่อการลงทุน โดย 1Q67 คาดกำไรจะเติบโตเพียงเลขหลักเดียว YoY ดังนั้นเราจึงยังคงเรทติ้ง “Neutral” 4Q66 และปี 2566 กำไรตรงตามคาด RJH รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 99 ลบ. หดตัว 17.8%QoQ ตามผลฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 187.9%YoY เนื่องจาก 1) มีฐานกำไรที่ต่ำมากใน 4Q65 หลังมีการบันทึกโบนัสพนักงาน 18 ลบ. และค่าตัดจำหน่ายรายได้ประกันสังคม 34 ลบ. 2) รายได้ค่ารักษารวมเพิ่มขึ้น 14.2%YoY ทั้งนี้หากไม่รวมบริการที่เกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งบันทึกใน 4Q65 ราว 4.51 ลบ. และใน 4Q66 ราว 0.67 ลบ. จะพบว่า รายได้คนไข้ทั่วไปเติบโต 17%YoY ซึ่งเป็นผลจากการรายได้ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในทิ่เติบโต 15%YoY และ 19%YoY ตามลำดับ หลังมีค่ารักษาเฉลี่ยต่อคนที่สูงขึ้นตามการรักษาโรคซับซ้อนรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ประกันสังคมเติบโต 5%YoY ซึ่งเป็นผลมาจากตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 มีการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวของคนไข้ประกันสังคมเป็น 1,808 บาท/คน/ปี เพิ่มขึ้น 10.2%YoY และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นเป็น 31.9% จาก 25.6% ใน 4Q65 หลังเกิดผลประหยัดต่อขนาดจากมีจำนวนผู้ป่วยมาใช้บริการเพิ่มขึ้นและมีการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายประกันสังคม จึงหนุนให้ปี 2566 RJH มีกำไรสุทธิ 420 ลบ. หดตัว 59%YoY ตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2566 อีก 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield ราว 0.95% (XD 7 มี.ค. 67 และจ่ายเงินปันผล 20 พ.ค. 67) ซึ่งเมื่อรวมกับ ระหว่างปี 2566 RJH มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 ครั้งรวม 0.95 บาทต่อหุ้น โดยครั้งที่ 1 จ่ายเงินปันผล 0.70 บาทต่อหุ้น (XD ไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 66) และ ครั้งที่ 2 จ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น (XD ไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 66) ทำให้ RJH มีการประกาศจ่ายเงินปันผลรวมจากผลกำไรปี 2566 หุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็น Div. Yield ปีละ 4.6% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในหุ้นกลุ่มการแพทย์ที่เราดูแลอยู่ คงประมาณการกำไร สำหรับปี 2567 แม้เราจะมองรายได้ค่ารักษาทั้งกลุ่มคนไข้ทั่วไปและผู้ประกันตนยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่คาดถูกหักล้างบางส่วนจากการต้องรับรู้ต้นทุนค่าใช้จ่ายจาก รพ. เปิดใหม่ อาทิ รพ. ให้บริการรังสีรักษาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง (ถือหุ้น 60%) ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ ม.ค. 67 และ รพ. แห่งใหม่ที่หนองแค จ.สระบุรี (ถือหุ้น 76%) ที่มีกำหนดเปิดให้บริการใน 2H67 ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของ RJH ไว้ที่ 430 ลบ. เติบโต 2.5%YoY คงเรทติ้ง Neutral เนื่องจากระยะสั้นมองยังขาดปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น และการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานยังไม่ได้โดดเด่นจูงใจต่อการลงทุน โดย 1Q67 คาดกำไรจะเติบโตเพียงเลขหลักเดียว YoY อีกทั้งเรายังคงให้ราคาเป้าหมายปี 2567 อยู่ที่หุ้นละ 28 บาท โดยประเมินอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7.0% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 1.0%) ซึ่งมี Upside จำกัด ดังนั้นจึงยังคงเรทติ้ง Neutral สำหรับ RJH ปัจจัยเสี่ยง การเปลี่ยนนโยบายจ่ายค่ารักษาของโครงการประกันสังคม การขาดแคลนบุคลากร และต้นทุนของโรงพยาบาลใหม่ ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก RJH240227_T |
