ZEN รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 อ่อนแอที่ 38 ลบ. (-31% YoY และ -5% QoQ) เราปรับประมาณการกำไรปกติของ ZEN ลดลง 18% ในปี 2567 และ 17% ในปี 2568 จากมุมมองของ EBIT margin ที่อ่อนแอลง โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทายในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ในขณะที่เราเชื่อว่าปัจจัยลบสะท้อนในราคาหุ้นไปมากพอสมควรแล้ว แต่ในระยะสั้นราคาหุ้นไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากยังขาดความเชื่อมั่นในผลประกอบการจนกว่าจะถึง 2H67 จากประโยชน์ของกลยุทธ์ที่ ZEN ใช้จะเพิ่ม SSS ด้วยการปรับปรุงร้านและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ เราปรับลดคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ระยะ 3 เดือนสำหรับ ZEN ลงสู่ NEUTRAL (จาก OUTPERFORM) โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ปรับใหม่เป็น 10.2 บาท/หุ้น 4Q66: ผลประกอบการอ่อนแอ ZEN รายงานกำไรสุทธิ4Q66 อ่อนแอที่ 38 ลบ. (-31% YoY และ -5% QoQ) รายได้รวมของ ZEN เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 5% QoQ หลักๆ ได้แรงหนุนจากการขยายสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ (+17% YoY และ +10% QoQ) ในขณะที่ SSS อ่อนแอที่ -7.9% ใน 4Q66 (เทียบกับ +0.4% ใน 4Q65 และ -4.5% ใน 3Q66) สะท้อนถึงการบริโภคที่ชะลอตัวและการแข่งขัน EBIT อยู่ที่ 63 ลบ. ใน 4Q66 ลดลง 22% YoY แต่ทรงตัว QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดโปรโมชั่นราคาและการดำเนินงานที่ชะลอตัวลงที่สาขาใหม่ที่บริษัทเป็นเจ้าของ สำหรับปี 2566 ZEN รายงานกำไรสุทธิ 158 ลบ. เพิ่มขึ้น 2% YoY ZEN ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.30 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3% XD วันที่ 8 มี.ค. 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พ.ค. 2567 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 17% ในปี 2567 ในปี 2567 ZEN ตั้งเป้ารายได้เติบโต 17% สู่ 4.6 พันลบ. สำหรับธุรกิจร้านอาหาร (82% ของรายได้) บริษัทตั้งเป้า SSS ที่ 3-5% (จาก 0.1% ในปี 2566) ZEN เปิดเผยว่าในเดือนม.ค. SSS ชะลอตัว โดยกลยุทธ์ในการเพิ่ม SSS คือ การปรับปรุงร้านและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ หลักๆ คือ แบรนด์ AKA (35% ของรายได้) และ ตำมั่ว (4% ของรายได้) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2Q67 ZEN ตั้งเป้าเปิดสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเพิ่ม 14 สาขา (สาขาใหม่ 20-25 สาขาหักด้วยการปิดสาขา 6-11 สาขา) ซึ่งต่ำกว่าการเปิดสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเพิ่ม 38 สาขาในปี 2566 สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ (2% ของรายได้) ZEN ตั้งเป้าเปิดสาขาแฟรนไชส์เพิ่ม 10 สาขา (สาขาใหม่ 15-20 สาขาหักด้วยการปิดสาขา 5-10 สาขา) โดยจะขยายสาขาไปยังต่างประเทศเชิงรุกมากขึ้นด้วยการเปิดสาขาแฟรนไชส์ใหม่ 5 สาขาภายใต้แบรนด์ เขียง ในประเทศญี่ปุ่นและประเทศมาเลเซีย ปรับประมาณการกำไรลดลง ความกังวลของเรา คือ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน เราปรับประมาณการกำไรปกติของ ZEN ลดลง 18% ในปี 2567 และ 17% ในปี 2568 โดยในปี 2567 เราใช้สมมติฐานรายได้เติบโต 13% (ต่ำกว่าเป้าของบริษัท) และ EBIT margin ที่ 6.1% ในปี 2567 ลดลงจาก 6.5% ในปี 2566 ทั้งนี้แม้ต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่เรามองว่าผลประโยชน์ที่ได้น่าจะลดน้อยลงเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทายในอุตสาหกรรมร้านอาหารจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขันจะทำให้ ZEN ต้องใช้กลยุทธ์ราคา ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดว่ากำไรปกติจะเติบโตต่ำที่ 2% YoY สู่ 161 ลบ. ในปี 2567 เราคาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67 จากประโยชน์ของกลยุทธ์ที่ ZEN ใช้จะเพิ่ม SSS ด้วยการปรับปรุงร้านและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ปรับคำแนะนำลงสู่ NEUTRAL ราคาหุ้น ZEN ปรับตัวลดลง 45% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และปัจจุบันเทรดที่ PE ปี 2567 ระดับ 16 เท่า ใกล้เคียงกับระดับ -2SD ของ PE เฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 ในขณะที่เราเชื่อว่าปัจจัยลบสะท้อนในราคาหุ้นไปมากพอสมควรแล้ว แต่ในระยะสั้นราคาหุ้นไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากยังขาดความเชื่อมั่นในผลประกอบการ เราปรับลดคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ระยะ 3 เดือนสำหรับ ZEN ลงสู่ NEUTRAL (จาก OUTPERFORM) โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ปรับใหม่เป็น 10.2 บาท/หุ้น ลดลงจาก 15 บาท/หุ้น (ประเมินด้วยวิธี DCF โดยอิงกับ WACC ที่ 7.4% และการเติบโตระยะยาวที่ 2%) ปัจจัยเสี่ยง 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค 2) การแข่งขันรุนแรง 3) ต้นทุนที่สูงขึ้น และ 4) การเปลี่ยนแปลงความชอบของผู้บริโภค เรามองว่าความเสี่ยง ESG คือ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และคุณภาพอาหาร (S) |
|||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก ZEN240308_T
|