OSP รายงานกำไรปกติ 2Q67 ที่ 919 ลบ. (+67.4% YoY และ +10.9% QoQ) โดยเป็นไตรมาสที่กำไรปกติสูงเป็นอันดับสองของบริษัท แต่มีรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนจำนวน 315 ลบ. เป็นตัวฉุดรั้งกำไรสุทธิ แม้ OSP ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ตัวเลขหลักเดียวระดับสูง แต่ยังใกล้เคียงกับประมาณการปัจจุบันของเรา ดังนั้นรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H67 อาจจะอ่อนตัวลง HoH แต่เพิ่มขึ้น YoY กำไรปกติ 3Q67 น่าจะลดลง QoQ จากผลกระทบของโลว์ซีซั่น แต่จะเพิ่มขึ้น YoY จากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สูงขึ้น แต่ทั้งนี้อาจมีการบันทึกรายการขาดทุนจากการด้อยค่าเพิ่มเติมใน 3Q67 เราเชื่อว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวใน 4Q67 โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายจากกลุ่มประเทศ CLMV และประโยชน์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เงินปันผลงวด 1H67 อยู่ที่ 0.30 บาท/หุ้น (XD วันที่ 29 ส.ค.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.3% เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ OSP โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 29 บาท/หุ้น อ้างอิงระดับ -0.5SD PE ที่ 32 เท่า
สรุปผลประกอบการ 2Q67… ได้รับแรงกดดันจากขาดทุนจากการด้อยค่า ใน 2Q67 OSP รายงานกำไรสุทธิ 604 ลบ. (+9.9% YoY แต่ -27.1% QoQ) รายได้อยู่ที่ 7.3 พันลบ. (+9.5% YoY และ +1.2% QoQ) โดยรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเติบโต 11.2% YoY และ 0.4% QoQ ในขณะที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลเติบโต 26.3% YoY และ 18.2% QoQ ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศใน 2Q67 อยู่ที่ 46.4% ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่ม functional drink อยู่ที่ 45.9% อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสู่ 38.2% โดยได้รับการสนับสนุนจากการปรับราคาขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น การประหยัดต่อขนาด และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง OSP บันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนในต่างประเทศจำนวน 315 ลบ.
OSP ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ตัวเลขหลักเดียวระดับสูง OSP ปรับเป้าการเติบโตของยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ สู่ตัวเลขหลักเดียวระดับสูง โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายต่างประเทศที่ดีกว่าคาดจากการปรับราคาเพิ่มขึ้น ยอดขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น และยอดขายเครื่องดื่ม functional drink ที่เติบโตมากขึ้น OSP ยังคงเป้าส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ณ สิ้นปี 2567 ไว้ที่ 47.9% เพิ่มขึ้น 2% โดยได้รับการสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์หลักทั้ง M-150 และ M-150 สปาร์คกลิ้ง
คงประมาณการปี 2567 โดยจะมีผลกระทบจากโลว์ซีชั่นใน 3Q67 เรายังคงประมาณการรายได้ปี 2567 ไว้ที่ 2.79 หมื่นลบ. (+7.2%) โดยตัวเลขการเติบโตของรายได้ที่เราประเมินได้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ OSP ปรับใหม่ ในขณะที่การรวมรายการขาดทุนจากการด้อยค่าใน 2Q67 เข้ามาทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเราเปลี่ยนแปลงน้อยมาก โดยอยู่ที่ 2.74 พันลบ. (+14%) และคาดการณ์กำไรปกติที่ 3.05 พันลบ. (+45.7%) เราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ได้ที่ 37% เพิ่มขึ้นจาก 34.5% ในปี 2566 โดยได้รับการสนับสนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง การประหยัดต่อขนาด และการปรับราคาในเมียนมาเพิ่มขึ้น กำไรปกติ 3Q67 น่าจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของยอดขายเครื่องดื่ม โดยคาดว่าปริมาณการขายจะลดลงทั้งในประทเศและต่างประเทศ และอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจาก 2Q67 เล็กน้อยจากการประหยัดต่อขนาดลดลง อย่างไรก็ตาม OSP มีนโยบายขายเงินลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักที่มีผลการดำเนินงานอ่อนแอใน 2H67 ซึ่งอาจจะมีอย่างน้อย 1 รายการใน 3Q67
ประเด็น ESG OSP ถูกจัดอยู่ในรายชื่อหุ้น SET ESG Ratings ที่ ระดับ “AA” สำหรับปี 2567-2568 OSP ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ความเสี่ยงด้าน ESG อยู่ในด้านการบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ (S) ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของลูกค้า (S) และค่าตอบแทนผู้บริหาร (G)
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ: 1) ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบหลักๆ เช่น ก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้า 2) ความผันผวนของปริมาณการขายในตลาด CLMV และนโยบายการเงิน และ 3) การฟื้นตัวของการบริโภค |
||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก OSP240826_T
|