TRUE รายงานกำไรปกติ 2.9 พันลบ. ใน 3Q67 เพิ่มขึ้น 37.8% QoQ และฟื้นตัวจากขาดทุน 1.6 พันลบ. ใน 3Q66 กำไรปกติออกมาสูงกว่า INVX คาด 36.1% จากต้นทุนที่ต่ำกว่าคาด การดำเนินงานของบริษัทก็แข็งแกร่งเช่นกัน เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนผลประกอบการ 9M67 ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดยปัจจุบันเราคาดว่า TRUE จะรายงาน EBITDA เติบโตสูงกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ กำไรปกติ 4Q67 น่าจะยังคงเติบโต YoY แต่เราคาดการณ์ตามหลักความระมัดระวังว่าจะลดลง QoQ ถ้าบริษัทบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าคาด ประมาณการของเราจะมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TRUE โดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ใหม่จาก 13 บาท เป็น 15 บาท (WACC 7.9% และการเติบโตระยะยาว 2%) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น TRUE ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มสื่อสาร
ปัจจัยกระตุ้น#1: กำไรปกติ 3Q67 สูงกว่าคาด TRUE รายงานขาดทุนสุทธิ 810 ลบ. ใน 3Q67 เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.9 พันลบ. ใน 2Q67 และขาดทุนสุทธิ 1.6 พันลบ. ใน 3Q66 โดยใน 3Q67 TRUE บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยจำนวน 3.9 พันลบ. และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (หลังภาษี) จำนวน 160 ลบ. หากตัดรายการเหล่านี้ออกไป พบว่า TRUE มีกำไรปกติ 2.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 37.8% QoQ และฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 1.6 พันลบ. ใน 3Q66 โดยกำไรปกติสูงกว่า INVX คาด 36.1% เซอร์ไพร้ส์หลักๆ คือ ต้นทุนการให้บริการ และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจาก synergy ด้านต้นทุนที่สูงกว่าคาด TRUE ระบุว่าบริษัทดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายได้เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดย ณ 3Q67 TRUE ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายเสร็จสิ้นจำนวน 10,800 แห่ง เทียบกับเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ที่ 10,000 แห่งสำหรับสิ้นปี 2567 การดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่ง รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (64% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 3.27 หมื่นลบ. ทรงตัว QoQ แต่เติบโต 3.7% YoY การเติบโต YoY หลักๆ ได้แรงหนุนจากการแข่งขันด้านราคาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น blended ARPU อยู่ที่ 211 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% QoQ และ 5.5% YoY โดยได้แรงหนุนจากบริการระบบเติมเงินซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักสำหรับการแข่งขันด้านราคา จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงมาอยู่ที่ 49.3 ล้านราย จาก 50.5 ล้านรายในไตรมาสก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากการมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของการได้มาซึ่งผู้ใช้บริการและการร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกันการฉ้อโกง รายได้จากธุรกิจ FBB (13% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 6.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 1.5% QoQ และ 7.5% YoY โดยได้แรงหนุนจาก ARPU ที่สูงขึ้น (+0.7% QoQ และ +9.8% YoY) และจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น (+23,000 ราย)
ปัจจัยกระตุ้น#2: EBITDA จะเติบโตสูงกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 เนื่องจากกำไรปกติ 9M67 คิดเป็น 92% ของประมาณการกำไรเต็มปีที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เราจึงเชื่อว่ากำไรที่เราคาดการณ์ไว้น่าจะเป็นตัวเลขที่ยึดหลักความระมัดระวังมากเกินไป ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้น 27.6% สู่ 8.1 พันลบ. หลังจากปรับประมาณการต้นทุนการให้บริการลดลง 1.8% และปรับประมาณการค่าใช้จ่ายภาษีเพื่อสะท้อนตัวเลข 9M67 โดยปัจจุบันเราคาดว่า EBITDA จะเติบโต 15.1% สูงกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 12-14% นอกจากนี้เรายังเล็งเห็นโอกาสที่ประมาณการกำไรของ consensus จะปรับเพิ่มขึ้นหลังจาก TRUE รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งด้วย
ปัจจัยกระตุ้น#3: คาดกำไรปกติ 4Q67 แข็งแกร่งขึ้น YoY เราคาดว่า TRUE จะรายงานกำไรปกติ 4Q67 ที่แข็งแกร่งขึ้น YoY โดยได้แรงหนุนจากการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันด้านราคาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับ QoQ เราคาดการณ์ตามหลักความระมัดระวังว่ากำไรปกติจะลดลง เนื่องจากโดยปกติแล้ว 4Q จะเป็นช่วงที่มีการใช้จ่ายด้านการตลาดสูง อย่างไรก็ดี หาก TRUE สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าที่เราคาดการณ์ ประมาณการของเราจะมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 3Q67 และคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก แม้ว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว YTD แต่เราเชื่อว่าแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นน่าจะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เรายืนยันมุมมองของเราว่าราคาหุ้นที่ย่อตัวลงจะเปิดโอกาสให้เข้าซื้อ
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญสำหรับกลุ่มสื่อสาร คือ ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์และการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ (S)