High Conviction

High Conviction : TU - ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากเกินไป (ราคาเป้าหมาย 18 บาท)

1 Apr 24 9:00 AM
TU-20240912053933
สรุปสาระสำคัญ
ราคาหุ้น TU ปรับตัวลดลงมากเกินไป และ underperform SET อยู่ 5% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยซื้อขายที่ PE ปี 2567 ระดับ 12.7 เท่า (-1S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปี) สะท้อนความกังวลของตลาดเกี่ยวกับธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปที่อ่อนแอใน 1Q67
TU - ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากเกินไป

ราคาหุ้น TU ปรับตัวลดลง และ underperform SET อยู่ 5% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยซื้อขายที่ PE ปี 2567 ระดับ 12.7 เท่า (-1S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปี)

สะท้อนความกังวลของตลาดเกี่ยวกับธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปที่อ่อนแอใน 1Q67 เรามองว่าตลาดมีความกังวลมากเกินไป เนื่องจาก: 1) กำไรปกติ 1Q67 ที่เราประเมินได้อยู่ที่ 922 ลบ. +15% YoY โดยได้แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นนำโดยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง แต่ -25% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล; 2) โมเมนตัมกำไร 2Q67 จะแข็งแกร่งขึ้น โดยจะเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY นำโดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster; 3) โครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลง เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TU โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 18 บาท อ้างอิง PE 16 เท่า (PE เฉลี่ย 10 ปี)

ปัจจัยกระตุ้น#1: กำไรปกติ 1Q67 จะเติบโต YoY  

เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q67 ที่ 902 ลบ. -11% YoY แต่เพิ่มขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 1.72 หมื่นลบ. ใน 4Q66 หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 20 ลบ. ออกไป กำไรปกติ 1Q67 จะอยู่ที่ 922 ลบ. +15% YoY แต่ -25% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้กำไรปกติเพิ่มขึ้น YoY คือ: 1) ยอดขายที่ดีขึ้น (+2% YoY) จากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (+15% YoY) และยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป (เพิ่มขึ้นในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง YoY) ที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่สูงขึ้น ซึ่งมากเกินพอชดเชยยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งที่ลดลง (-10% YoY; 5% YoY จากการลดขนาดธุรกิจที่มีมาร์จิ้นต่ำในสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่ 2Q66 และ -5% YoY จากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในสหรัฐฯ); 2) อัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้นสู่ 16.9% (+180bps YoY) เนื่องจากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งจากการมีสัดส่วนการขายที่ดีขึ้น จะช่วยชดเชยมาร์จิ้นที่อ่อนแอลงที่ธุรกิจอาหารทะแลแปรรูปจากราคาสินค้ารับจ้างผลิต (OEM) ที่อยู่ในระดับต่ำสอดคล้องกับระดับราคา spot ปลาทูน่า ท่ามกลางต้นทุนสต๊อกปลาทูน่าที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ TU จะไม่มีการบันทึกผลการดำเนินงานจาก Red Lobster ใน 1Q67 (เทียบกับกำไร 272 ลบ. ใน 1Q66; ส่วนแบ่งกำไร 20 ลบ. และเครดิตภาษี 252 ลบ.) หลังจากบริษัทปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน Red Lobster เป็นศูนย์เมื่อสิ้น 4Q66 โดย TU จะประกาศผลประกอบการวันที่ 8 พ.ค.

ปัจจัยกระตุ้น#2: กำไร 2Q67 จะแข็งแกร่งขึ้น

เราคาดว่ากำไรปกติใน 2Q67 จะเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY จากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ดีขึ้นและไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster ทั้งนี้หลังจากราคาปรับตัวลดลงสู่ US$1,517/ตัน ใน 4Q66 (-9% YoY, -16% QoQ) การจับปลาได้ดีขึ้นส่งผลทำให้ราคา spot ปลาทูน่าท้องแถบปรับตัวลดลงอีกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ US$1,350/ตัน ในเดือนม.ค.-ก.พ. (-26% YoY, -11% QoQ) โดย TU คาดว่าราคา spot ปลาทูน่าท้องแถบจะทำจุดต่ำสุด จากนั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยใกล้เคียงกับ US$1,700/ตัน ในปี 2567 สำหรับธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ด้วยต้นทุนปลาทูน่าที่แท้จริงที่ลดลง (ตามหลังราคา spot ราว 3-6 เดือน) ท่ามกลางราคาผลิตภัณฑ์ทูน่าประเภทรับจ้างผลิต (OEM) ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ยอดขายและมาร์จิ้นมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ยอดขายและมาร์จิ้นจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการมียอดขายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้น สูงเพิ่มมากขึ้นหลังจากบริษัทปรับส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้ TU จะไม่มีการบันทึกผลการดำเนินงานจาก Red Lobster ใน 2Q67 (เทียบกับ -55 ลบ. ใน 2Q66; ส่วนแบ่งกำไร -189 ลบ. และเครดิตภาษี 134 ลบ.)

ปัจจัยกระตุ้น#3: โครงการซื้อหุ้นจะช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลง  

คณะกรรมการของ TU มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ถึงวันที่ 30 มิ.ย. จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น (4.3% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ในวงเงินไม่เกิน 3.6 พันลบ. นับถึงปัจจุบัน บริษัทซื้อหุ้นคืนมาแล้ว 85.71 ล้านหุ้น (43% ของจำนวนหุ้นที่ตั้งเป้าซื้อคืน) ที่ต้นทุน 1.24 พันลบ. คิดเป็นต้นทุนซื้อคืนเฉลี่ย 14.4 บาท/หุ้น (ต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ 1%) โดยบริษัทยังคงเหลือหุ้นอีก 114 ล้านหุ้นที่สามารถซื้อคืนซึ่งจะช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลง

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ:

แรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินบาท ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ยังยืน (E) นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน (S)

ดาวน์โหลดลิ้งอ่านบทวิเคราะห์ได้ที่นี่ TU_HighConviction240401_T

Click ดาวน์โหลด Info  TU - 20240401

Overdone drop in share price  
 
  

TU’s share price has fallen and underperformed the SET by 5% over the past two months, trading at 12.7x 24PE (-1S.D. over its 10-year PE), pricing in market concern on a weak ambient unit in 1Q24F. In our view the concern is overdone in view of: 1) projected 1Q24F core profit of Bt922mn, +15% YoY on better sales and margin led by the pet care unit but -25% QoQ on seasonality; 2) stronger 2Q24F momentum, up QoQ on seasonality and YoY led by ambient and pet food units and no loss from Red Lobster; 3) ongoing downside protection to share price from a share repurchase program. We maintain Outperform with an end-2024 TP of Bt18 based on 16x PE (10-year average PE).

Catalyst#1: YoY growth in 1Q24F core earnings. We expect 1Q24F net profit of Bt902mn, -11% YoY but up from a net loss of Bt17.2bn in 4Q23. Excluding Bt20mn FX loss, 1Q24F core profit is set to be Bt922mn, +15% YoY but -25% QoQ on seasonality. Backing the YoY rise are: 1) better sales (+2% YoY) on the depreciation of the THB against the US dollar, growing pet care sales (+15% YoY) and ambient seafood sales (up in mid single digits YoY) as higher sales volume outpaced lower frozen seafood sales (-10% YoY; -5% YoY from downsizing the low-margin business in the US starting in 2Q23 and -5% YoY from weaker demand in the US);
2) widening in gross margin to 16.9% (+180bps YoY) as a better margin at the pet care and frozen units from more favorable sales mix will offset the weaker margin at the ambient unit from low OEM selling price in tandem with low spot tuna price amid high tuna inventory costs. Note that it will book zero contribution from Red Lobster in 1Q24 (vs Bt272mn contribution in 1Q23; Bt20mn equity income and Bt252mn tax credit) after it adjusted fair value of its investment in Red Lobster to zero at end-4Q23. TU will release results on May 8.

Catalyst#2: Stronger 2Q24F. We expect core earnings in 2Q24F to grow QoQ on seasonality and YoY on better ambient and pet care units and the absence of the loss from Red Lobster. After falling to US$1,517/ton in 4Q23 (-9% YoY, -16% QoQ), better catches pulled spot skipjack tuna price down further to a 3-year low of US1,350/ton in Jan-Feb (-26% YoY, -11% QoQ). TU expects spot skipjack tuna price to bottom out, then rise to close to US$1,700/ton on average in 2024. At the ambient unit, with lower actual tuna costs (lagging spot price by 3-6 months) amid a more stable tuna OEM price, sales and margin will improve from 2Q24F. At the pet care unit, sales and margin recovery will continue from more high-margin sales after it adjusted ingredient mix and packaging. TU will book zero contribution from Red Lobster in 2Q24 (vs -Bt55mn contribution in 2Q23;
-Bt189mn equity income and Bt134mn tax credit).

Catalyst#3: Downside protection from share repurchase. TU’s board approved a share repurchase running from Feb 20 to June 30 of up to 200mn shares (4.3% of total shares), paying up to Bt3.6bn. So far, it has repurchased 85.71mn shares (43% of targeted share repurchase) at a cost of Bt1.24bn, implying an average repurchase cost of Bt14.4/share (1% below current share price). The fact that it still has 114mn shares that it can repurchase will protect against price downside.

Key risks: inflationary pressure, higher interest rate, and THB appreciation. Key ESG risks are energy, waste & water management, sustainable products (E), health & safety policies for customers and labor (S).

Click here to read and/or download file  TU_HighConviction240401_E

 
 
 

 
 
Most Read
Related Articles
Most Read