หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 180 บาท (อิงกับ PBV ที่ 0.6 เท่า) เนื่องจาก BBL เป็นธนาคารที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด สินเชื่อเติบโตมากที่สุด ความเสี่ยงเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ valuation ถูกที่สุด รวมถึงมีโอกาสปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล ในปี 2568 BBL คาดว่าจะเห็น credit cost ลดลง การเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง (แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคาร) การฟื้นตัวของรายได้ค่าธรรมเนียม และ NIM ที่หดตัวจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย BBL กำลังพิจารณาบริหารจัดการเงินทุนทั้งในรูปของการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน เราปรับประมาณการอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 34% เป็น 36% ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับงวด 2H67 อยู่ที่ 4.2% เรามองว่าโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น
• Credit cost จะลดลง BBL ตั้งเป้าลด credit cost ลงจาก 1.3% ในปี 2567 มาอยู่ที่ 0.9-1% ในปี 2568 เรายังคงประมาณการ credit cost ปี 2568 ตามหลักความระมัดระวังที่ 1.1% (-20 bps) ด้วย LLR coverage ที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ 334% BBL จึงมีโอกาสที่จะลด credit cost ลงได้อีกมาก ธนาคารประเมิน NPL ratio ได้ที่ 3% ในปี 2567 เทียบกับ 2.7% (ตามการคำนวณของ BBL) ในปี 2567
• เป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร BBL ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ที่ 3-4% โดยคาดว่าสินเชื่อกิจการต่างประเทศและสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จะเติบโต 3-5% ในขณะที่สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยจะเติบโต 1-2% BBL อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดที่จะได้รับประโยชน์จาก FDI ที่ไหลเข้ามาในอาเซียนเพิ่มขึ้น เราคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ของ BBL ไว้ที่ 3%
• NIM จะหดตัวลง BBL ตั้งเป้า NIM ที่ 2.8-2.9% ในปี 2568 (เทียบกับ 2.96% ในปี 2567) โดยคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 25 bps เนื่องจาก BBL เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ปรับลดทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ (ปรับลง 10 bps) และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ (ปรับลง 20 bps) ในเดือนพ.ย. เราจึงคาดว่า NIM ของ BBL จะหดตัวน้อยกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ เราคาดว่า NIM ของ BBL จะหดตัว 13 bps ในปี 2568 โดยคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 50 bps ในปี 2568
• รายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้น BBL ตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวในปี 2568 (เทียบกับ +2% ในปี 2567) โดยได้แรงหนุนจากการขายประกันผ่านธนาคาร (bancassurance) และกองทุนรวม (asset management)
• Upside จากการบริหารจัดการเงินทุน BBL กำลังพิจารณาบริหารจัดการเงินทุนทั้งในรูปของการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน เราปรับประมาณการอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 34% เป็น 36% เราคาดการณ์เงินปันผลงวด 2H67 ที่ 6.5 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.2%
• Valuation ถูกที่สุด เรายังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก BBL เป็นธนาคารที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด สินเชื่อเติบโตมากที่สุด ความเสี่ยงเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ valuation ถูกที่สุด รวมถึงมีโอกาสปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากการลดอัตราดอกเบี้ย 3) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัว และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)
Upside on DPS with the most solid B/S
Post analyst meeting, we keep BBL as our sector pick with an unchanged TP of Bt180 (based on 0.6x PBV) as it has the most solid balance sheet, strongest loan growth, lowest asset quality risk and cheapest valuation plus an upside on DPS. In 2025, BBL expects lower credit cost, solid loan growth (strongest in the sector), fee income recovery and a narrowed NIM from rate cuts. BBL is considering capital management in the form of a hike in dividend payout and/or treasury stock. We raise our forecast dividend payout to 36% from 34% for 2024, giving 4.2% dividend yield on 2H24. We see the likely hike in DPS as a near term catalyst.
Key risks: 1) Asset quality risk from a global economic slowdown, 2) NIM risk from interest rate cuts, 3) slower-than-expected loan growth from sluggish loan demand and 4) ESG risk from market conduct.
Download PDF Click > BBL_HighConviction250219_E.pdf